หนุ่มวัย 30 ปี ถูกยิงขมับเสียชีวิตบนเตียง ข้างกายพบปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ อีกรายเป็นสาววัย 27 ปี ถูกยิงขมับขวาเสียชีวิต พบปืนพกออโตเมติกวางอยู่ข้างศพภายในคอนโดชั้น 7 ย่านลาดสวาย ยังไม่สรุปชนวนเหตุยิงกันตายรอสอบสวนญาติผู้เสียชีวิตอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ร.ต.อ.ประธาน วัดชัยภูมิ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.คูคต ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิต ภายในคอนโดย่านลาดสวาย เลขที่ 9/99 หมู่ 7 ซอยลำลูกกา 47 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับแพทย์เวรจากนิติเวชโรงพยาบาลภูมิพล พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง
ในที่เกิดเหตุ เป็นคอนโดสูง 7 ชั้น ตรวจสอบภายในห้องเลขที่ 712 ชั้น 7 พบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย เป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายชนะพล ชัยเขต อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/10 หมู่ 2 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เสียชีวิตอยู่บริเวณบนเตียงลักษณะนั่งล้มตัวลงบนเตียง มีร่องรอยถูกยิงบริเวณขมับด้านขวาจำนวน 1 นัด และอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ไม่ทราบขนาด วางอยู่บนเตียง ข้างศพของนายชนะพล และศพหญิงอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นางสาวภัทรา ดิษศรี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 467 ซอยเขมาเนรมิต แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณพื้นด้านล่างเท้าของนายชนะพล มีร่องรอยถูกอาวุธปืนยิงบริเวณขมับด้านขวาจำนวน 1 นัด ในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติด ขนาด .45 มม. จำนวน 1 กระบอก วางอยู่บริเวณด้านข้างศพของนางสาวภัทรา นอกจากนี้จากการตรวจค้นภายในห้องเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดจำนวนหนึ่ง
ทางด้าน พ.ต.อ.สมิทธิ สารอต ผกก.สภ.คูคต กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับแจ้งจากเจ้าของแมนชั่น ได้บอกว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตนพักอยู่บริเวณชั้น 8 และได้ยินเสียงอาวุธปืนดังขึ้นจำนวน 3 นัด โดยเสียงออกมาจากห้องผู้ตายดังกล่าว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับแพทย์ชันสูจน์พลิกศพ พร้อมบันทึกภาพในที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุของการยิงกันตายของหนุ่มสาวคู่นี้นั้น ยังไม่ทราบว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุใด ต้องติดต่อทางญาติๆ ของผู้เสียชีวิตทั้งคู่มาสอบสวนอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตนั้น ได้มอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งชันสูตร ยังสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลภูมิพลเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง