MGR Online -บช.น.หารือสันติบาลเตรียมรับมือ วันศาลฎีกาฯ นัดอ่านคำพิพากษา “ยิ่งลักษณ์” ปล่อยปละเลยให้มีทุจริตรับจำนำข้าว 27 ก.ย.นี้ หลังนัดแรก 25 ส.ค.จำเลยหลบหนี เชื่ออดีตนายกฯ หญิงไปไม่กลับ ประเมินเสื้อแดงมาชุมนุมแค่ 300 คน เพราะขาดเงินทุนสนับสนุน
วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น.ดูแลงานความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) กองทัพบก รอง ผบก.น.1-9 รอง ผบก.อคฝ. รอง ผบก.สส.บช.น. รอง ผบก.สปพ. และหน่วยงานฝ่ายการข่าวประชุมประชาคมข่าวความมั่นคงเกี่ยวกับกรณีศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะอ่านคำพิพากษารับคดีรับจำนำข้าว วันที่ 27 ก.ย. 60 หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลบหนีไม่มาฟังการอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้มีการเตรียมความพร้อมไว้โดยห้ามประมาท ส่วนตัวเลขจำนวนกลุ่มผู้มาชุมนุมในวันที่ 27 ก.ย.นี้มีเพียงเล็กน้อย แต่ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านเพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มที่ การประชุมดังกล่าวเพื่อวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ของมวลชนที่เข้ามาในพื้นที่ศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นหลัก ส่วนจำนวนกำลังที่จะเตรียมความพร้อมในการดูแลนั้นจะใช้กำลังอย่างเต็มที่เหมือนเดิม แต่ไม่ได้มีการประสานขอกำลังจากกองบัญชาการข้างเคียงเหมือนเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมาแต่อย่างใด เชื่อว่าอดีตนายกรัฐมนตรีคงไม่มา และโอกาสที่จะมาค่อนข้างน้อย พี่น้องประชาชนที่มาให้กำลังใจก็คงจะมาไม่มาก
ด้าน พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อประเมินสถาการณ์ด้านการข่าวคาดว่าจะมีกลุ่มผู้มาร่วมชุมนุมประมาณ 300-400 คน ส่วนการจัดกำลังนั้นจะนำข้อมูลที่ได้สรุปจากการประเมินสถานการณ์ด้านการข่าวไปร่วมประชุมกับทางศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีกครั้งเพื่อนำความเห็นมาเป็นแนวทางในการจัดกำลังในพื้นที่ คาดว่าไม่จำเป็นต้องประสานขอกำลังจากพื้นที่อื่นดังเช่นที่เคยได้มีจัดเตรียมไว้เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า การประมาณสถานการณ์ด้านการข่าวของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเสือแดงในพื้นที่ 50 เขตทั่วกรุงเทพมหานคร ประมาณ 300 คน รวมถึงทางกองทัพบกประเมินสถานการณ์ว่าจะมีมวลชนที่เป็นกลุ่มแฟนพันธุ์แท้ที่มีความชื่นชอบอดีตนายกรัฐมนตรีมาปักหลักชุมนุมโดยเดินทางมากันเองไม่มีกลุ่มนายทุนสนับสนุนแต่อย่างใด