MGR Online - ปคม.เตรียมออกหมายเรียก “นินิวส์โมเดลลิ่ง” จัดส่งเด็กที่อายุไม่ถึง 18 ปี เต้นโชว์ตามสถานบันเทิง เข้าข่ายค้ามนุษย์ พบหลักฐานมีความผิดชัดเจนโดยเฉพาะ “ป๋าเกิด” เจ้าของโมเดลลิ่งตัวจริงอาจเสนอหมายจับ
สืบเนื่องจากกกรณีกลุ่มหญิงสาวโคโยตี้ที่ปรากฏในคลิปภาพเหตุการณ์เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการลงโทษด้วยการตบหน้า จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เหตุเกิดในบ้านพักหลังหนึ่งย่านบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. กระทั่งวันที่ 18 ก.ย. 60 กลุ่มผู้เสียหาย 4 รายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) เพื่อเอาผิดต่อเจ้าของ “นินิวส์โมเดลลิ่ง” เนื่องจากมีพฤติกรรมเข้าข่ายค้ามนุษย์
วันนี้ (19 ก.ย.) พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม.เปิดเผยความคืบหน้าว่า หลังสอบปากคำผู้เสียหายเมื่อวานนี้เชื่อว่ามีการกระทำความผิดจริง โดยหลักฐานที่นำมาด้วยนั้นมีความชัดเจนมาก ทั้งแอปพลิเคชันไลน์ เฟซบุ๊ก ไอจี ฯลฯ และข้อมูลค่อนข้างสมบรูณ์แบบ สามารถออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องได้ แต่หากรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพบว่ามีโทษสูงก็จะออกหมายจับ ส่วนมีผู้เกี่ยวข้องเป็นใครบ้างนั้นต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายศาลต่อไป
“สำหรับข้อหาที่เข้าข่ายความผิด ได้แก่ การค้ามนุษย์ การหาประโยชน์ทางเพศกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี นอกจากนี้ ขอชี้แจงว่าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถทำงานเป็นแดนเซอร์ได้ แต่ต้องขออนุญาตจากผู้ปกครองก่อน และทางผู้ประกอบการก็ต้องระมัดระวัง ควรศึกษาข้อกฎหมายให้ถูกต้องตามที่กรมแรงงานกำหนด”
โดยก่อนหน้านี้ มีกลุ่มหญิงสาวผู้เสียหาย 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.เอ (นามสมมติ) น.ส.บี (นามสมมติ) น.ส.ซี (นามสมมติ) และ น.ส.ดี (นามสมมติ) ทั้งหมดอายุ 17 ปี พร้อมญาติพี่น้อง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีต่อเจ้าของ “นินิวส์โมเดลลิ่ง” ผู้ดูแลบ้านพักที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว เนื่องจากมีพฤติกรรมค้ามนุษย์ จัดส่งเด็กที่อายุไม่ถึง 18 ปี เต้นโชว์ตามสถานบันเทิง หลังการสอบปากคำเด็กทั้งหมดจะดำเนินการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ “ป๋าเกิด” นายเกิดใหม่ รวยจริงนะ (ชื่อเดิม นายคีตกานต์ เกิดไพบูลย์) ที่ผู้เสียหายระบุว่าเป็นเจ้าของโมเดลลิ่งตัวจริง ส่วน น.ส.พรรณวรท ควบคุม หรือนินิวส์ อายุ 34 ปี คนดูแลสาวโคโยตี้และอ้างว่าไม่ได้ให้เด็กค้าประเวณี แต่พาไปเต้นโคโยตี้ตามผับเท่านั้น หลังจากนี้จะเรียกมาสอบปากคำตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป