xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : คดีร้อนๆ โอ๊ค-พานทองแท้ ฟอกเงินกู้กรุงไทยรอดยาก

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันอังคารที่ 19 กันยายน 2560 ตอน คดีร้อนๆ โอ๊ค-พานทองแท้ ฟอกเงินกู้กรุงไทยรอดยาก



เรื่อง “โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร”กับการรับเงินปากถุงจากเงินกู้กรุงไทย เป็นเรื่องไม่ยากที่จะคาดเดาว่ารอดหรือจะโดนแจ้งข้อหาคดีฟอกเงิน หลังจากพบเส้นทางโอนเงิน สองพ่อลูก กฤษดามหานคร”วิชัย-รัชฏา”โอนเงินเข้าบัญชีลูกชายคนเดียวของทักษิณ ชินวัตร ถึง 2ครั้ง รวม 36ล้านบาท  เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะเอาผิดกับพานทองแท้และพวก

ในช่วงนี้ คนตระกูล ชินวัตร ก็กำลังร้อนรุ่มใจไม่ใช่น้อย เมื่อกล่องดวงใจทักษิณ พานทองแท้ ชินวัตร กำลังอาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาคดี ฟอกเงิน ธนาคารกรุงไทย โดยปฏิทินทางคดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ น่าจะมีข้อสรุปเบื้องต้นในการแจ้งข้อกล่าวหากับพานทองแท้ ได้ภายในช่วงเดือนนี้หรืออย่างช้าไม่น่าเกินกลางเดือนหน้า

หลังคดียืดเยื้อมายาวนาน จนเริ่มถูกตั้งข้อสงสัยแล้วว่า ทำไม ถึงล่าช้านัก ทั้งที่รูปคดีเป็นเรื่องของการสอบสวนข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐาน ที่เป็นเรื่อง การทำธุรกรรมทางการเงิน การตรวจสอบเส้นทางการเงินและการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่น่าจะแกะร้อยไม่ได้ยาก

สำหรับ พฤติการณ์แห่งคดีที่ทำให้พานทองแท้  เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินกรุงไทยฯ ก็เพราะมีหลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยงถึงพานทองแท้ และคนใกล้ชิด ตระกูลชินวัตร ทั้ง นางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัว คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา พานทองแท้ ตลอดจน เชื่อมโยงไปถึง นายวันชัย หงส์เหิน สามีนางกาญจนาภา และนางเกศินี จิปิภพ มารดาของนางกาญจนาภา หงส์เหิน

หลักสำคัญที่ว่าเห็นว่าพานทองแท้และเครือข่ายรับเงินปากถุงเวินกู้กรุงไทย คือหลักฐานเส้นทางการเงินที่  วิชัย และรัชฎา กฤษดาธานนท์ สองพ่อลูก ตระกูล กฤษดาธานนท์ เจ้าของกลุ่มกฤษดามหานคร  ซึ่งในอดีตกลุ่มกฤษดามหานคร บิ๊กแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ และคนส่วนใหญ่ก็รู้กันดีว่า ได้ให้การสนับสนุนทักษิณมาตลอดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ด้วย

จนต่อมา  กลุ่มกฤษดามหนครและบริษัทในเครือคือ บริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค ก็ได้รับสินเชื่อ  9,900 ล้านบาท จากแบงค์กรุงไทย ในยุคทักษิณเป็นนายกฯ จนกลายเป็นคดีความ ถูกศาลฏีกาฯ ตัดสินจำคุกทั้งอดีตบอร์ดกรุงไทยและนายวิชัยกับนายรัชฏา ไปเมื่อสองปีที่แล้ว

ความเกี่ยวข้องที่พานทองแท้ กำลังจะโดนเอาผิดคดีฟอกเงิน เริ่มปรากฏตั้งแต่ในชั้นคณะกรรมการคตส.มาจนถึงในชั้นดีเอสไอ ที่พบ การโอนเงินจากนายวิชัยและรัชฏา ที่บริษัทในเครือตัวเอง ได้สินเชื่อจากกรุงไทยฯมาเก้าพันกว่าล้านบาทโดยมิชอบ แล้วเงินจากบัญชีทั้งสองคน ก็พบมาเข้าบัญชี พานทองแท้ ถึงสองครั้ง

ครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อ 30ธันวาคม2546 โดยพนักงานบริษัทกฤษดามาหนคร ได้ซื้อแคชเชียร์เช็ค จำนวนเงิน 26ล้านบาท จากธนาคารไทยธนาคาร โดยหักจากเงินในบัญชีของนายวิชัย สั่งจ่ายและนำเงินเข้าบัญชี นายพานทองแท้ ที่ธนาคารกรุงเทพฯ

แต่วันเดียวกันก็มีการยกเลิกรายการ จากนั้นวันรุ่งขึ้น พนักงานคนเดิม ก็ซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายบริษัทหลักทรัพย์ธนชาติ เพื่อชำระค่าหุ้นในบัญชีซื้อขาย ของนางเกศินี จิปิภพ มารดาของนางกาญจนภา หงส์เหิน

จากนั้น  นางเกศินี ได้สั่งจ่ายเช็คจำนวน หนึ่งล้าน แปดแสนบาท เข้าบัญชีนายพานทองแท้ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารัชโยธิน หลักฐานการโอนเงินครั้งที่ 2เกิดขึ้นเมื่อ17 พ.ค.2547 นายวิชัย กฤษดาธานนท์ ได้สั่งจ่ายเช็คธนาคารไทยธนาคาร จำนวน 10ล้านบาท เข้าบัญชีเงินฝาก พานทองแท้ ที่เป็นบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาบางพลัด

 นิติกรรมที่สร้างข้อสงสัย ยังไม่จบแค่2ครั้งข้างต้น  ยังพบอีกว่า  บริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี่ ที่ได้เงินกู้จากกรุงไทย ได้นำเงินกู้ที่ได้ ไปซื้อหุ้นจองที่เป็นหุ้นต่ำกว่าราคาตลาด ของบริษัทท่าอากาศยานไทย หรือทอท. ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ จำนวน4หมื่นกว่าหุ้น

จากนั้น นายรัชฏา กฤษดาธานนท์ ได้นำหุ้นดังกล่าว  ไปเสนอขายให้กับพนักงานบริษัทฮาวคัม และบริษัทมาสเตอร์โฟน ที่ พานทองแท้ เป็นประธานกรรมการ

ความน่าสงสัยก็คือ ทำไม นายรัชฏา ที่มีหุ้นจองดังกล่าว กลับไม่เก็บไว้ นำไปขายต่อเพื่อเอากำไร แบบเห็นๆ แต่กลับมาเสนอขายให้พนักงานฮาวคัม ลูกน้องของพานทองแท้  อันเป็นเรื่องที่ชวนให้น่าสงสัยอย่างยิ่งของนักโทษคดีกรุงไทยกับพานทองแท้ และเครือข่าย  

พฤติกรรมการเล่นแร่แปรธาตุของคนเหล่านี้ ไม่ได้หนีพ้นสายตาของกระบวนการยุติธรรมไปได้ มีคำวินิจฉัยของศาลฎีกาเขียนไว้แล้ว มีว่าไว้อย่างไร ใครเป็นคนเขียน เราจะมาว่ากันต่อตอนต่อไปวันพรุ่งนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น