xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : "บิ๊กตู่"เจอวิกฤติรุมเร้า ทางเลือกไหน ฝ่าด่านอยู่ยาว!?

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2560 ตอน "บิ๊กตู่"เจอวิกฤติรุมเร้า ทางเลือกไหน ฝ่าด่านอยู่ยาว!?




เรื่องสถานการณ์ของรัฐบาลและคสช. ยิ่งอยู่นานวัน ก็ยิ่งจะสาละวันเตี้ยลง ไม่นับรวมการกำหนดวันเลือกตั้งที่ถูกนักการเมืองทุกค่ายจี้คำถามมาจนหูชา เอาแค่เฉพาะช่วงนี้ อาการรัฐบาลไม่ค่อยจะดีเหมือนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก มีประเด็นร้อนๆที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปวดประสาท ไม่เว้นแต่ละวัน

เรื่องงามหน้าในฝ่ายบริหาร ที่ถูกสื่อและสังคมวิจารณ์รายล่าสุด ต่อจากพี่ใหญ่อย่าง "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่โดนถล่มมาหนักอย่างต่อเนื่อง คือ "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

"บิ๊กป๊อก" พี่รองในขุนศึกตระกูล สามป. แห่งบูรพาพยัคฆ์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีมาดสุขุมมาตลอดระยะการทำงาน 3 ปีของคสช.คราวนี้เจอป๊อกเด้ง มี 2 ประเด็นหนักๆคือ

เด้งที่ 1 ปมการใช้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอนุมัติให้บริษัทเอกชนเจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง ได้เข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะประโยชน์ป่าชุมชน ภาคอีสาน บ้านโคกห้วยเม็ก ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ทั้งที่ชาวบ้านมีการร้องเรียนคัดค้านการเข้าไปใช้ประโยชน์ของบริษัทดังกล่าว

เจองานนี้ "บิ๊กป๊อก"ถูกตั้งคำถามว่า ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์นายทุน ปรนเปรอข้าราชการในพื้นที่จนนำมาสู่ข้อครหา หรือไม่ มีข้อสงสัยว่า ท่ามกลางเสียงต่อต้านของชาวบ้านเหตุใดจึงมีการปล่อยให้บริษัทดังกล่าวเข้าไปดำเนินการจนเกิดสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ได้อย่างง่ายดายทั้งที่เป็นป่าชุมชนแบะไม่ใช่ป่าเสื่อมโทรม

เด้งที่2 ประเด็นยกป่าชุมชุนให้นายทุนยังไม่เคลียร์ ก็มีปมใหม่ของเรื่องเก่าเข้ามาแทรก คือประเด็นร้อนเรือเหาะ หรือเรือเหี่ยว เลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน พล.อ.อนุพงษ์ อีกเรื่อง

เป็นเชื้อลามต่อมาจากที่ กองทัพบกปลดระวางการใช้งานเรือเหาะตรวจการณ์ เนื่องจากหมดอายุใช้งาน ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงงบประมาณจัดซื้อที่สูง และประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่คุ้มค่า

งานนี้ "พี่รอง" ชี้แจงได้แต่ใครจะเชื่อ ยังดีที่เจ้าตัวอ้าแขนรับการตรวจสอบหากมีการร้องเรียน จะได้รู้ดำรู้แดง เรียกว่า พลิ้วหนีตำบลกระสุนตก ไปได้
แต่เรื่องยังไม่จบแน่ๆ เพราะมีคำถามเรื่องความไม่โปร่งใสต้องถูกยิงตรงไปที่ กองทัพ กระทรวงมหาดไทย และรัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำแน่นอน

เพราะ "บิ๊กตู่" พูดทุกวันศุกร์ ย้ำมาตลอดว่า ไม่ว่าใครหน้าไหนหากทำทุจริตฟันทิ้ง ไม่เลี้ยงไว้ งานนี้ จะได้รู้กันไป นายกฯจะดำเนินการอย่างไร

สถานการณ์ในช่วงปลายอำนาจนี้ ใช่ว่า "บิ๊กตู่" จะมีแค่ปัญหากลิ่นไม่ดีที่ว่ามาเท่านั้น แต่ความเชื่อมั่นก็มีปัญหาเข้ามาเป็นระยะๆ ด้วยที่ยื้อเกมมายาว ไม่ยอมเลือกตั้งจนกระทบภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นในสายตาต่างชาติ ถูกประเทศประชาธิปไตยรวมตัวแบนทางการค้าในหลายเรื่อง

นอกจากนี้ ยังมีคิวร้อนรอขึ้นเขียงรายต่อไปที่เป็นเรื่องสำคัญเหนือกว่าเรื่องใด คือ เรื่องปากท้องประชาชน เป็นข้อเท็จจริง ที่ยามนี้ เกษตรกรโอดครวญเจอพายุเศรษฐกิจกระหน่ำซ้ำเติมหนัก เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรดิ่งเหวตกรูด ไม่ว่าจะเป็น ข้าว ยาง ปาล์ม มันสำประหลัง ฯลฯ ราคาไม่ทรง ก็ทรุด

เมื่อเจอปัญหาราคาสินค้าเกษตร เป็นเรื่องที่ "พล.อ.ประยุทธ์" กลืนไม่เข้า คลายไม่ออกหนักเข้าไปใหญ่ เจอกับเรื่องพี่รอง นี่ก็ปัญหาของพี่ใหญ่ ไหนจะต้องเลือกระหว่างเพื่อนรักอย่าง "บิ๊กนมชง" พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หรือ เลือกเกษตรกรผู้ยากไร้ อีก

เลยมองกันว่า วันนี้เป็นช่วงมีวิกฤติรุมเร้ารอบด้านที่กระหน่ำเข้ามา ทางออกที่ดีทางหนึ่ง "บิ๊กตู่"คงหาทางวางหมากล้างไพ่ใหม่ และถือว่ายามนี้นับเป็นจังหวะดีที่สุดแล้ว ที่จะปรับคณะรัฐมนตรี รอบใหม่อีกสักที

ผลลัพธ์ ที่ได้จากการปรับครม. ไม่ใช่แค่เปิดโอกาสเปิดช่องให้คนดีมีฝีมือได้เข้ามาทำงานแทนคนเก่าที่ทำงานไม่เข้าเป้าเท่านั้น แต่มันหมายรวมถึงการได้ผ่อนปรนแรงกระแทก ที่ถาโถมเข้ามาทุกทิศทาง และหลังจากนี้คงต้องมีรายการอื่นตามมาอีกแน่ๆ

ในช่วงสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อนี้ การปรับครม. เหมาะทั้งใช้ผ่องถ่ายก่อนลงหลังเสือ หรือจะสลับหน้าเสื่อเพื่อกระชับอำนาจในกรณีเล่นเกมลากยาว ตามข่าวลือว่าอาจจะไม่มีการเลือกตั้งในปี 2561 การปรับครม. จึงเป็นทางแก้ลำที่ดีที่สุด แต่มันอยู่ที่ "บิ๊กตู่" ใจกล้าพอหรือเปล่า
กำลังโหลดความคิดเห็น