MGR Online - ศาลฎีกายกคำร้อง “สุพจน์” ขอยื่นเอกสารการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเพิ่มเติม ที่เคยยื่นไว้ต่อ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบว่าถูกต้องแล้ว และไม่กระทบการนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 26 ก.ย.นี้
วันนี้ (13 ก.ย.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลแพ่งนัดฟังคำสั่งศาลฎีกา ที่ทนายความของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ยื่นคำร้องขอส่งเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของ ป.ป.ช. ในการยื่นฎีกาคดีหมายเลขดำที่ ปช.1/2555 ที่อัยการสูงสุดเป็นผู้ร้อง นายสุพจน์ ผู้คัดค้าน ขอให้ทรัพย์สินของนายสุพจน์ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ชี้มูลความผิด เมื่อปี 2555 ว่ามีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ
โดยวันนี้ศาลได้นัดฟังคำสั่งกรณีที่นายทิวา การกระสัง ทนายความของนายสุพจน์ยื่นขอส่งเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับทรัพย์สิน เพื่อให้ศาลฎีกาประกอบการพิจารณาคดี ขณะเดียวกัน อัยการผู้ร้องก็ยื่นหนังสือคัดค้าน ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าเอกสารการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินฯ ผู้คัดค้านทราบเกี่ยวกับเอกสารดังกล่าวดี อยู่แล้วแต่ผู้คัดค้านก็ไม่ได้นำมายื่นเพื่อสืบในศาลชั้นต้น คำร้องของผู้คัดค้านไม่มีผลต่อการพิจารณาคดีให้ยกคำร้อง
ภายหลัง นายทิวาเปิดเผยว่า วันนี้เป็นการยื่นเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีการตรวจสอบทรัพย์สินของนายสุพจน์ เมื่อปี 2544-2550 ที่เคยยื่นไว้ต่อ ป.ป.ช. และ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบว่าถูกต้องแล้ว โดยศาลเห็นว่าเอกสารดังกล่าวนายสุพจน์ทราบอยู่แล้วแต่ไม่ได้ดำเนินการยื่นไว้ตั้งแต่ศาลชั้นต้น จึงให้ยกคำร้อง โดยตนเพิ่งเข้ามาเป็นทนายความในชั้นศาลฎีกา ส่วนศาลชั้นต้นนั้นได้ขอเอกสารเกี่ยวกับบัญชีการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินจาก ป.ป.ช. แต่ขณะนั้น ป.ป.ช.ยังไม่ได้ให้เอกสารมา จึงไม่ได้ยื่นต่อศาลไปตั้งแต่แรก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศาลยกคำร้องไม่รับเอกสารเกี่ยวกับการตรวจสอบทรัพย์สินเพิ่มเติมในส่วนนี้จะมีผลอย่างไรบ้าง นายทิวากล่าวว่า ไม่มีผลอะไร เป็นการยื่นตามสิทธิของฝ่ายผู้คัดค้าน ก็เข้าใจว่าศาลอาจจะไม่รับก็ได้หลังจากนี้ก็คงต้องรอฟังคำพิพากษาศาลฎีกาจะออกมาอย่างไร
เมื่อถามถึงคดียื่นทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จของนายสุพจน์ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 26 ก.ย.นี้ เวลา 09.30 น. นายทิวากล่าวว่า เป็นในส่วนของเงินสดจำนวน 17 ล้านบาท ที่นายสุพจน์ถูกโจรปล้นบ้าน แต่ไม่ได้ยื่นไว้กับ ป.ป.ช. เพราะนายสุพจน์ระบุว่าเป็นเงินค่าสินสอดในการแต่งงานของบุตรสาว ซึ่ง ป.ป.ช.ไม่เชื่อ โดยนายสุพจน์ก็จะต้องเดินทางไปฟังคำพิพากษาด้วย ซึ่งขณะนี้นายสุพจน์ได้รับการประกันตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีแพ่งคดีหมายเลขดำที่ ปช.1/2555 ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โดยคดีนี้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2558 แก้เป็นว่า ให้ริบทรัพย์สินของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ให้ตกเป็นของแผ่นดิน รวม 64,998,587.52 บาท