MGR Online - ผบช.น.ยันคนร้ายระเบิดตู้เอทีเอ็มเป็นวิธีพิเศษในการชิงทรัพย์ ลงมือคนเดียว-เชี่ยวชาญด้านระเบิดพอควร ยันไม่ได้สร้างสถานการณ์เลียนแบบพฤติกรรมคนร้ายในพื้นที่ 3 ชายแดนใต้ ส่วนระเบิดที่ใช้อาจเป็นซีโฟร์ หรือทีเอ็นที อานุภาพทำลายล้างต่ำ
วันนี้ (13 ก.ย.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยภายหลังประชุมความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการแบ่งและมอบหมายงานให้เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดยังพบข้อมูลที่เกี่ยวกับเงินในตู้เอทีเอ็มที่มีอยู่จำนวนกว่า 4 แสนบาท แต่คนร้ายได้เงินสดไปเพียง 314,100 บาท เนื่องจากพบว่ายังมีธนบัตรใบละ 500 บาทหลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุอีกประมาณ 1 แสนบาทที่คนร้ายไม่ได้นำไป
ส่วนกรณีที่ให้น้ำหนักว่าคนร้ายมีความประสงค์ต่อทรัพย์สินนั้น เพราะเชื่อว่าคนร้ายต้องการได้เงินในตู้เอทีเอ็ม การประทุษกรรมครั้งนี้ยอมรับว่าเป็นวิธีพิเศษในการชิงทรัพย์ เพราะมีความแตกต่างไปจากที่อื่น เชื่อว่าคนร้ายมีความรู้ในเรื่องการประกอบระเบิดพอสมควรก่อนจะมาลงมือก่อเหตุครั้งนี้ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นคนกลุ่มไหน และยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า คนร้ายรายนี้ประสงค์ต่อทรัพย์สินเป็นหลัก และไม่อยากให้ประชาชนนึกถึงประเด็นการก่อการร้าย หรือการสร้างสถานการณ์ เพราะจะมีการเบี่ยงประเด็นไป ต้องขอเวลาหาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเป็นหลักฐานในสำนวนสอบสวนต่อไป โดยสิ่งใดที่สงสัยก็ต้องตรวจสอบทั้งหมด เบื้องต้นต้องตีกรอบการสอบสวนให้กว้างแล้วค่อยให้แคบลงตามลำดับเพื่อให้ได้ตัวคนร้ายให้เร็วที่สุด
สำหรับเรื่องลักษณะคนร้ายนั้น จากการสอบพยานนั้นพบว่าใช้ยานพาหนะค่อนข้างชัดเจน เป็นจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีดำ สภาพเก่า ไม่ติดป้ายทะเบียน
ส่วนกล้องวงจรปิดที่พบมีทั้งภายในห้างสรรพสินค้าและภายนอก โดยพบว่าคนร้ายใช้ช่วงก่อเหตุเวลาประมาณ 03.28 น. โดยใช้เวลา 5 นาที ตั้งแต่เข้ามาจนออกไป โดยการก่อเหตุครั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการสร้างสถานการณ์เลียนแบบพฤติกรรมคนร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้แน่นอน เนื่องจากวิธีการและแผนประทุษกรรมแตกต่างกันชัดเจน
จากเหตุการณ์คนร้ายวางระเบิดตู้กดเงินสดอัตโนมัติของธนาคารกรุงเทพ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขากรุงเทพกรีฑา เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาโดยหัวหน้า รปภ.และพยานที่เห็นเหตุการณ์แจ้งว่าคนร้ายรูปร่างท้วม อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ ใส่หมวกกันน็อกสีขาวเต็มใบ ใช้จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นคลิก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะ โดยขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปฏิบัติหน้าที่อยู่เพียงคนเดียว
มีรายงานจากหน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) แจ้งเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบตู้เอทีเอ็มและบริเวณโดยรอบพบว่า แผงปุ่มกดตัวเลข และช่องเงินกระเด็นไปไกลกว่า 50 เมตร และพบว่ามีรอยแรงระเบิดจากบริเวณด้านข้างซ้ายของตู้เอทีเอ็มนั้นคือส่วนที่เปราะบางที่สุด ลักษณะการระเบิดคือการสร้างแรงดันบริเวณนั้นเพื่อผลักให้กล่องเก็บเงินกระเด็นออกมาด้านหน้าอย่างง่ายดาย การลงมือในลักษณะนี้ได้คนร้ายต้องมีความรู้เรื่องตู้เอทีเอ็ม และระเบิดเป็นอย่างดี ส่วนระเบิดที่ใช้อาจเป็นซีโฟร์ หรือทีเอ็นที ที่มีอานุภาพทำลายล้างต่ำ