MGR Online - ศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษายกฟ้อง “ครูแขก” คดีร่วมประกอบระเบิดในบ้านเช่าย่าน ถ.ราษฎร์อุทิศ มีคนตาย 2 เมื่อปี 57 ระบุไม่มีพยานหลักฐานบ่งชี้จำเลยอยู่ในห้องที่เกิดเหตุ
ที่ห้องพิจารณา 301 ศาลจังหวัดมีนบุรี วันนี้ (7 ก.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.8979/2559 ที่อัยการมีนบุรีเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.อัมพร ใจก้อน หรือครูแขก อายุ 57 ปี ชาวเชียงใหม่ ที่ใกล้ชิดผู้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ ซื้อ มี ใช้ สั่งหรือนำเข้า วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ตามความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดฯ มาตรา 38, 55,78 จากกรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 มี.ค. 57 เกิดเหตุระเบิด ที่บริเวณลานดินกว้าง ติด ถ.ราษฎร์อุทิศ ระหว่าง ซ.ราษฎร์อุทิศ 25-27 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และจักรยานยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนอยู่ในสภาพถูกระเบิดพังเสียหาย ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าก่อนเหตุนายกษิ ดิฐธนรัชต์ หรือนายอ่าว อิสระส์ เป็นบุคคลที่มาติดต่อเช่าบ้านที่เกิดเหตุให้ผู้เสียชีวิตทั้งสองรายกับพวกเพื่ออาศัย ในชั้นพิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี
โดยวันนี้ศาลเบิกตัว น.ส.อัมพร หรือครูแขกมาจากเรือนจำพิเศษมีนบุรี ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีพนักงานสอบสวนเบิกความว่าพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุมีความเชื่อมโยงกับคดีระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่นพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยทำแผนผังความเชื่อมโยงของนายกษิ ดิฐธนรัชต์ หรือนายอ่าว อิสระส์ ผู้ที่กระทำผิดร่วมซึ่งเชื่อมโยงกับจำเลย แต่โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานที่ยืนยันว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด เช่นเดียวกับพยานแวดล้อมที่มีก็เพียงบอกว่ามีผู้หญิงมาพบกับนายกษิที่บ้านเช่าเลขที่ 49 ซึ่งโจทก์ระบุว่าเป็นที่ใช้ประกอบวัตถุระเบิด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวจำเลยได้ พยานกลับไม่ชี้ตัวยืนยันว่าเป็นจำเลย โดยระบุว่าผู้หญิงที่เห็นนั้นมีอายุมากกว่าจำเลย พยานโจทก์จึงไม่มีความแน่นอน
ส่วนหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจำเลยไปที่บ้านพักเลขที่ 49 เนื่องจากลายนิ้วมือเป็นคนละคนกับของจำเลย ซึ่งโจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน, พยานแวดล้อมและหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ที่หนักแน่น พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังไม่น้ำหนักมั่นคงเพียงพอตามที่โจทก์ฟ้อง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของจำเลย จึงพิพากษายกฟ้อง
ภายหลังศาลยกฟ้องแล้ว ต่อมาเวลา 10.00 น.เศษ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัว น.ส.อัมพร หรือครูแขก กลับเข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรีทันที
ด้าน น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ศาลพิพากษายกฟ้อง ซึ่งครูแขกก็จะได้รับการปล่อยตัวเสียทีหลังจากถูกคุมขังมานาน ส่วนคดีระเบิดสมานเมตตาแมนชั่น ที่ จ.นนทบุรี คดีนั้นศาลอาญาก็ยกฟ้อง โดยอัยการยื่นอุทธรณ์คดีแต่เมื่อศาลไม่ได้สั่งขังระหว่างอุทธรณ์ ครูแขกก็จะได้รับการปล่อยตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ “ครูแขก” ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 5 และทหาร จับกุมตัวตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 948/2557 คดีร่วมทำให้เกิดระเบิดได้เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 59 ภายในบ้านพักที่ ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ แล้วนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีเดือน ก.ย. 59 ที่ผ่านมา โดยตลอดเวลาดังกล่าวจนถึงปัจจุบันไม่ได้รับการประกันตัวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ครูแขกยังถูกอัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาในความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2590 มาตรา 4, 38 ,74 ฐานมีวัตถุระเบิดชนิดแสวงเครื่อง ระเบิดแรงต่ำดินเทาและยูเรีย น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม บรรจุไว้ในถังดับเพลิงและถังน้ำยาแอร์ และมีปืนเล็กกล (AK47) ขนาด 7.62 มม. RUSSIAN เลขประจำปืน 601098 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวจำนวน 129 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องไปเมื่อปี 2559 และคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์