ศาลฎีกาฯ แจ้ง “สุชาติ เหมือนแก้ว” ทำคำคัดค้านอุทธรณ์คดี 7 ตุลาฯ ภายใน 15 วัน หลังเป็นจำเลยเพียงคนเดียวที่ ป.ป.ช. ยื่นอุทธรณ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจะเลือกผู้พิพากษา 9 คน ที่ไม่เคยพิจารณาคดีนี้มาก่อน เพื่อพิจารณาคำอุทธรณ์ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาคดีสลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยวันที่ 7 ต.ค. 51 ที่ยื่นอุทธรณ์เฉพาะ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. จำเลยที่ 4 โดยได้ยื่นคำอุทธรณ์ผ่านแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ (5 ก.ย.) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา เตรียมจะส่งหมายแจ้งให้ พ.ล.ต.ท.สุชาติ ทราบและให้ทำคัดค้านอุทธรณ์ยื่นกลับมาภายใน 15 วัน นับจากวันที่ พ.ล.ต.ท.สุชาติ จำเลยได้รับหมายแจ้ง
ทั้งนี้ หาก พล.ต.ท.สุชาติ ทำคำคัดค้านส่งมาแล้ว ตามขั้นตอน แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา จะรวบรวมคำอุทธรณ์ของโจทก์, คำคัดค้านอุทธรณ์ของจำเลย และเอกสารสำนวนทั้งหมดเสนอให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาตามที่รัฐธรรมนูญฯ ปี 2560 มาตรา 195 วรรคสี่ บัญญัติ แล้วจะให้ลงมติเลือกผู้พิพากษา 9 คน ที่มีอาวุโสไม่ต่ำกว่าระดับหัวหน้าคณะในศาลฎีกาและต้องไม่เคยนั่งพิจารณาที่ตัดสินคดีนั้นมาก่อน เพื่อเป็นตัวแทนที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาวินิจฉัยคำอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งคดีสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ คดีนี้ถือเป็นคดีแรกที่ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญใหม่ ขณะที่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใหม่ ยังไม่มีผลบังคับใช้