MGR Online - ทนายเยี่ยม “บุญทรง” ในแดนแรกรับคลองเปรม อยู่ร่วมกับผู้ต้องขังในคดีเดียวกันรวมกัน 7 คน เผยทั้งหมดมีความเครียดและมีโรคประจำตัวคือไซนัสและภูมิแพ้ เตรียมยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัว ด้านอธิบดีราชทัณฑ์ แจง. บุญทรงกินข้าวได้ พูดคุยปกติ ไม่ป่วยหรือเครียดจัดตามที่เป็นข่าว
วันนี้ (28 ส.ค.) เวลา 09.30 น. ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายนรินทร์ สมนึก ทนายความของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ พร้อมญาติผู้ต้องขังในคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง หลังถูกส่งตัวย้ายมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
นายนรินทร์เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมว่า ตนได้พูดคุยกับนายบุญทรงถึงการยื่นประกันตัวในช่วงบ่ายวันนี้หรือช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.) โดยเหตุผลหลักคือปัญหาเรื่องสุขภาพ เพราะนายบุญทรงมีอาการเครียด และมีโรคประจำตัวคือไซนัส และภูมิแพ้ ซึ่งหลังถูกส่งตัวเข้าเรือนจำก็เข้าพบแพทย์ของเรือนจำเพื่อตรวจสุขภาพแล้วถึง 2 ครั้ง เนื่องจากความเครียดทำให้ความดันขึ้นแต่ได้กลับเป็นปกติแล้ว ส่วนการปรับตัวเข้ากับสภาพเรือนจำนายบุญทรงไม่ได้เปิดเผยอะไรมาก เรื่องการกินไม่ได้ นอนไม่หลับก็มีบ้างเป็นธรรมดา
นายนรินทร์เผยอีกว่า สำหรับการคุมขังภายในแดนแรกรับนายบุญทรงอยู่ร่วมกับผู้ต้องขังในคดีเดียวกันรวมกันเป็น 7 คน โดยผู้ต้องขังแต่ละคนต่างมีความเครียด แต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์นี้ทีมทนายและญาติก็ได้แต่ให้กำลังใจ ซึ่งในวันนี้ญาติและครอบครัวนายบุญทรงไม่ได้มาเข้าเยี่ยม มีเพียงเพื่อนของเดินทางมาเท่านั้น โดยครอบครัวฝากบอกนายบุญทรงให้เข้มแข็ง มีกำลังใจ และดูแลสุขภาพตัวเอง ส่วนผู้ต้องขังคนอื่นๆ มีญาติมาเยี่ยมครบทุกคน
“เรื่องการยื่นประกันตัวเป็นสิทธิของแต่ละรายที่ต้องแยกกันดำเนินการ เชื่อว่าศาลจะให้ความเป็นธรรม และขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ทั้งนี้ ยอมรับว่าการที่ศาลปกครองยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวเรื่องการอายัดทรัพย์ ส่งผลกระทบต่อหลักทรัพย์ที่จะนำมายื่นขอประกันตัวให้แก่นายบุญทรง ระหว่างนี้จะต้องตรวจสอบรายละเอีดยในคำพิพากษาว่ามีประเด็นใดสามารถยื่นคำร้องขอประกันได้บ้าง ขณะนี้ได้เตรียมประเด็นหลักๆ ไว้หลายประเด็นแล้ว”
ด้าน นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม ว่านายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และผู้ต้องขังคนอื่นๆในคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในแดนแรกรับมีความเป็นอยู่ตามปกติ ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพหรือการเจ็บป่วยหนัก สามารถรับประทานอาหารและพูดคุยกับเพื่อนผู้ต้องขังอื่นๆได้ รวมทั้ง ไม่ได้มีความเครียดตามที่ปรากฎเป็นข่าวแต่เป็นเพียงอาการเครียดปกติของผู้ต้องขังเข้าใหม่
"สำหรับทนายความสามารถติดต่อเข้าพบลูกความเพื่อปรึกษาคดีได้ทุกวัน เนื่องจากผู้ต้องขังกลุ่มนี้ยังถือเป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณา ทางเรือนจำอาจจัดให้นายบุญทรงกับพวกคุมขังอยู่แดนแรกรับไปก่อน หลังจากนั้น หากมีความชัดเจนจะพิจารณาเรื่องการจำแนกแดนอีกครั้ง ส่วนโปรแกรมพัฒนาพฤตินิสัยต่างๆจะเริ่มต่อเมื่อเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดแล้ว ระหว่างนี้จะให้อ่านหนังสือและปรับตัวเข้ากับสภาพเรือนจำไปก่อน"อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าว
