MGR Online - ศาลฎีกาฯ เผยแพร่คำวินิจฉัยกลางคดีสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ ฉบับเต็มความยาวกว่า 40 หน้า พร้อมคำวินิจฉัยส่วนตัวขององค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน โดยมติเสียงข้างมาก 8-1 พิพากษายกฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมพวก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มี นายธนสิทธิ์ นิลกำแหง เจ้าของสำนวนคดีสลายม็อบพันธมิตรฯ ปี 2551 และองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน ได้โดยองค์คณะมีมติเสียงข้างมาก 8-1 พิพากษายกฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี อายุ 70 ปี น้องเขย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หรือ บิ๊กจิ๋ว อดีตรองนายกรัฐมนตรี อายุ 85 ปี, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) อายุ 68 ปี น้องชายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.), พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) อายุ 66 ปี จำเลยที่ 1-4
ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. โจทก์ กล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 รัฐบาลนายสมชายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมจากกลุ่มพันธมิตรที่ปิดล้อมทางเข้ารัฐสภา ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักสากล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ผู้บาดเจ็บ 471 ราย
ซึ่งล่าสุดศาลฎีกาฯ ได้ลงคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อม.2/2558 ฉบับเต็มความยาว 40 หน้า พร้อมคำวินิจฉัยส่วนตัวขององค์คณะแต่ละท่าน ตามลำดับดังนี้
1. นายธนสิทธิ์ นิลคำแหง มีความเห็นส่วนตัวในการวินิจฉัย ความยาว 73 หน้า ว่า จำเลยที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่ให้รอการกำหนดโทษไว้มีกำหนด 4 ปี และให้ยกฟ้อง จำเลยที่ 1, 2, 3
2. นายชีพ จุลมนต์ มีความเห็นส่วนตัวในการวินิจฉัย ความยาว 37 หน้า ให้ยกฟ้อง โดยเหตุการณ์ช่วงเช้านั้น พยานหลักฐานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสี่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนเหตุการณ์ในช่วงบ่ายและค่ำ ยังฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 1, 3 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ จำเลยที่ 4 ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
3. นายชาติชาย อัครวิบูลย์ มีความเห็นส่วนตัวในการวินิจฉัย ความยาว 45 หน้า ให้ยกฟ้อง เนื่องจาก ยังฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 1, 3 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และจำเลยที่ 4 ปฏิบัติตามหน้าที่
4. นายธนฤกษ์ นิติเศรณี มีความเห็นส่วนตัวในการวินิจฉัย ความยาว 34 หน้า ให้ยกฟ้อง เนื่องจากยังฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 1, 3, 4 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
5. นายปริญญา ดีผดุง มีความเห็นส่วนตัวในการวินิจฉัย ความยาว 89 หน้า ว่า จำเลยที่ 1-4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จำคุกคนละ 3 ปี
6. นายโสภณ โรจน์อนนท์ มีความเห็นส่วนตัวในการวินิจฉัย ความยาว 38 หน้า ว่า จำเลยที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จำคุก 1 ปี และยกฟ้อง จำเลยที่ 1-3
7. นายพิศล พิรุณ มีความเห็นส่วนตัวในการวินิจฉัย ความยาว 15 หน้า พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสี่ ไม่มีความผิดตามฟ้อง
8. นายนิพนธ์ ใจสำราญ มีความเห็นส่วนตัวในการวินิจฉัย ความยาว 22 หน้า พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสี่
http://www.supremecourt.or.th/file/central.pdf คำพพิพากษากลาง
-------------------------
คำวินิจฉัยส่วนตนองค์คณะ
http://www.supremecourt.or.th/file/T_tanaset.pdf
http://www.supremecourt.or.th/file/T_chep.pdf
http://www.supremecourt.or.th/file/T_chatchai.pdf
http://www.supremecourt.or.th/file/t_tanarerk.pdf
http://www.supremecourt.or.th/file/T_parinya1.pdf
http://www.supremecourt.or.th/file/T_sopol.pdf
http://www.supremecourt.or.th/file/T_pison.pdf
http://www.supremecourt.or.th/file/T_nipon.pdf