MGR Online - ที่ประชุมความมั่นคงงัดแผนกรกฎ 52 ควบคุมมวลชนที่จะรับฟังคำพิพากษา “ยิ่งลักษณ์” ในวันที่ 25 ส.ค. นี้ ยันการข่าวไม่มีมือที่สาม แต่ผู้ที่ให้กำลังใจมาต้องอยู่ในความสงบห้ามปิดป้าย ใช้เสียงโห่ฮา เพราะอาจเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล
วันนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.น.2 พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย คสช. และประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับ ผบช.ภ.1 - 9 เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในวันที่ 25 ส.ค. ที่คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าว ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกันกับทุกฝ่ายเพื่อประเมินจำนวนของมวลชนที่จะมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มคนจากต่างจังหวัดที่เดินทางมามากขึ้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้มาตรการตาม พ.ร.บ. ชุมนุมปี 2558 และแผนกรกฎ 52 ในการควบคุมสถานการณ์ ซึ่งอยากฝากไปถึง ประชาชนที่จะเดินทางมา ว่า หากไม่จำเป็นก็ให้ฟังคำพิพากษาอยู่ที่บ้านก็สามารถทราบข่าวได้ โดยจากการข่าว ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องมีที่สาม อย่างไรก็ตามฝากไปถึงรถตู้สาธารณะ รถโดยสาร ที่จะขนคนเข้ามา หากไม่จำเป็นอย่าเข้ามาบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ เพราะปกติการจราจรก็ติดขัดอยู่แล้ว
“ศาลประกาศเขตอำนาจศาลเอาไว้ ตำรวจก็ทำตามที่ท่านสั่งคือไปวางรั้วเหล็ก ส่วนป้ายเขตอำนาจศาลนั้น ศาลท่านจะเป็นผู้ดำเนินการนำมาปิดเอง หากประชาชนที่มาในเขตที่ปิดป้ายไว้ จะถือว่าละเมิดอำนาจศาล ซึ่งลักษณะที่ละเมิดอำนาจศาล แค่เข้ามาในศาลก็ถือว่าผิดแล้ว มาแล้วไม่รักษาความสงบเรียบร้อย ปิดป้าย ใช้เสียงโห่ฮา เรียกร้องคัดค้าน สนับสนุน อย่างใดอย่างหนึ่งในขณะที่มีการอ่านคำพิพากษา จึงขอว่าอย่าฝ่าฝืนกฎหมาย แต่ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้มา แต่ท่านที่มากรุณาอย่าทำผิดกฎหมาย หากทำผิดกฎหมายก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย” พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าว
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้ามาดูแลความปลอดภัยได้รับการสนับสนุนจากตำรวจภูธรภาค 8 และ ภาค 9 จำนวน 21 กองร้อย และจาก บช.น. อีก 3 กองร้อย มีการตั้งจุดตรวจค้นจำนวน 3 จุด บริเวณทางเข้าและที่คาดว่าจะมีมวลชนเดินทางเข้า - ออก ทั้งนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ซึ่งพื้นที่ค่อนข้างจะแคบ และไม่อนุญาตให้เข้าไปบริเวณศาล จะกั้นพื้นที่ตั้งแต่แนวถนนด้านนอก จะมีแผงกั้นและมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ หากเดินทางมาก็ไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกั้นพื้นที่อำนาจศาลไว้ หากมาก็จะหมิ่นเหม่เกิดการละเมิดต่อกฎหมายขึ้นมา ซึ่งมี พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะปี 58 และประกาศ คสช. ฉบับที่ 3 รวมทั้งอาจจะละเมิดเขตอำนาจศาลด้วย จึงอยากให้ประชาชนฟังข่าวอยู่ที่บ้านดีกว่า
ด้าน พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. ดูแลความมั่นคง กล่าวว่า ทาง บช.น. มีการจัดเตรียมกำลังตำรวจทั้งหมด 24 กองร้อย 3,600 นาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดเตรียมกำลังดูแลความปลอดภัย ส่วนที่พักกองร้อยควบคุมฝูงชนจากบช.ภ.8 จำนวน 10 กองร้อย จะพักที่บช.น. กองร้อยควบคุมฝูงชน บช.ภ.9 จำนวน 4 กองร้อย จะพักในพื้นที่ บช.ภ.1 ส่วนกองร้อยควบคุมฝูงชน บช.ตชด. จำนวน 7 กองร้อย จะพักในพื้นที่ศูนย์อบรมของ บช.ตชด. ทั้งนี้ กำลังทั้งหมดจะเดินทางลงพื้นที่บริเวณศาลฎีกาในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. เพื่อเตรียมความพร้อมในการประจำจุดพื้นที่ต่างๆ ต่อไป
