MGR Online - น้องชายอดีตเจ้าหน้าที่ที่ดินพังงา ยื่นหนังสือกระทรวงยุติธรรม ขอความช่วยเหลือเงินค่าตอบแทนผู้เสียหายคดีอาญา ไม่ปักใจเชื่อดีเอสไอใช้เครื่องจับเท็จสอบผู้เกี่ยวข้อง 5 รายในวันเกิดเหตุพี่ชายเสียชีวิตในห้องขัง
วันนี้ (15 ส.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน จ.พังงา ที่เสียชีวิตภายในห้องควบคุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางยื่นเอกสารต่อนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าที่ ร.ต.ธนกร สถานานนท์ ผอ.สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา นายอินทราวุธ สมมาตร หัวหน้าศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
นายชัยณรงค์กล่าวว่า วันนี้ตนมายื่นเรื่องต่อกรมคุ้มครองสิทธิฯเพียงอยากนำเงินมาช่วยค่าใช้จ่ายของตนบางส่วนเพราะการดำเนินคดีมีค่าใช้จ่ายพอสมควร หลังจากที่ตนเข้าไปปรึกษาเรื่องคดีของพี่ชายกับ พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. และ พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ยืนยันว่าจะเร่งทำคดี รวมถึง สน.ทุ่งสองห้อง ได้ประสานขอกำลังพนักงานสอบสวนมาเพิ่มเติมเพื่อทำคดีนี้ให้เสร็จโดยเร็ว แต่ตนก็ไม่ได้คุยกับพนักงานสอบสวนว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่าใด เพราะไม่ได้เร่งรัดอะไรเนื่องจากต้องการให้เจ้าหน้าที่ทำคดีอย่างรอบคอบ โดยพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง รับปากจะประสานมายังตน เมื่อสำนวนส่งกลับมาจากอัยการแล้วคาดว่าน่าจะภายในสัปดาห์นี้แน่นอน แต่ตอนนี้ที่ล่าช้าเป็นเพราะศาลเรียบเรียงคดียังไม่เสร็จ ต้องรอให้อัยการพิจาณาอีกว่าจะมีคำสั่งอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ หรือว่าจะมีคำสั่งให้สอบอะไรเพิ่มเติม
“ส่วนดีเอสไอระบุว่าใช้เครื่องจับเท็จตรวจสอบเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และ รปภ.ทั้ง 5 คนแล้วไม่พบความผิดปกตินั้น โดยผมรู้จักเครื่องจับเท็จดังกล่าวมาหลายปี เชื่อมั่นว่าสามารถจับเท็จอะไรได้บ้าง แต่มาวันนี้ใครๆ ก็รู้ว่ามีการตั้งค่าได้ ผมจึงไม่เชื่อถือเลย ขอให้สังคมพิจารณาดูเอง” นายชัยณรงค์กล่าว
ด้านนายธวัชชัยเปิดเผยว่า นายชัยณรงค์มีความประสงค์มาขอเงินค่าช่วยเหลือและทดแทนกรณีพี่ชายเสียชีวิต โดยตามหลักเกณฑ์จะได้รวมทั้งหมด 110,000 บาท ทางกระทรวงยุติธรรมจะรับไว้พิจารณาก่อน เนื่องจากมีคณะอนุกรรมการพิจารณาว่าเรื่องดังกล่าวเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.ผู้เสียหายหรือไม่ ใช้เวลาประมาณ 45 วันจึงทราบผล เพราะมีประเด็นพิจารณาว่าจะต้องรอคำพิพากษาของศาลก่อนหรือไม่ และดูก่อนว่าเข้าหลักเกณฑ์อย่างไร เช่น กฎหมายตามที่ศาลมีคำสั่งว่ามีผู้กระทำให้นายธวัชชัยเสียชีวิตแต่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ แต่ถ้าครบ 45 วันแล้วคณะอนุกรรมการพิจารณาไม่ให้จ่ายเงินทดแทน ทางนายชัยณรงค์สามารถร้องเรียนไปยังศาลอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน
นายธวัชชัยเผยอีกว่า หากทางคณะอนุกรรมการมีข้อสงสัยก็อาจมีการขอรายงานการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน ตรงนี้จะทำให้ล่าช้า แต่ถ้าคณะอนุกรรมการเชื่อตามคำพิพากษาของศาลว่ามีผู้กระทำให้เสียชีวิตโดยคนอื่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องคณะอนุกรรมการก็อาจจะวินิจฉัยเลยทันที นอกจากนี้ ขอให้คณะอนุกรรมการพิจารณาก่อนเพราะเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เคยเกิดขึ้นแต่หากมีประเด็นข้อกฎหมายที่คณะอนุกรรมการตัดสินใจไม่ได้ตามบรรทัดฐานเรื่องนี้ก็จะไปจบที่ศาลอุธรณ์ ศาลก็จะมีคำพิพากษามาว่าให้จ่ายหรือไม่ให้จ่ายเงินค่าช่วยเหลือและทดแทนกรณีเสียชีวิตหรือไม่ แต่ถ้าคณะอนุกรรมการเห็นว่าไม่มีประเด็นปัญหาอะไรให้จ่ายได้ก็จะจ่ายให้น้องชายนายธวัชชัยตามปกติ