MGR Online - แม่วัย 28 ผูกคอลูกวัยขวบเศษ อัดคลิป หวังประชดสามี พอสงบสติอารมณ์ได้ร้องไห้ วอนสังคมเห็นใจ หยุดประณาม ทำไปเพราะขาดสติชั่ววูบ เหตุติดต่อสามีไม่ได้ แถมเครียดขายของไม่ดี ตร. ตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบเด็กบาดเจ็บ เชื่อแม่ไม่มีเจตนาทำร้าย ยังไม่ดำเนินคดี
จากกรณีคลิปสะเทือนใจคนทั้งประเทศถูกโพสต์ทางเฟซบุ๊ก เป็นภาพเหตุการณ์แม่ซึ่งอยู่ในอาการสติแตก ใช้เชือกผูกคอลูกตัวเล็กๆ แล้วใช้มือดึงต่อหน้ากล้องโทรศัพท์มือถือ ที่ตั้งถ่ายอัตโนมัติไว้ ทำให้เด็กน้อยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ร้องจ๊ากด้วยความตกใจกลัว ส่วนคนเป็นแม่ได้ตะโกนขู่ชายคนหนึ่งเข้าใจว่าเป็นสามีว่าจะฆ่าลูกให้ตาย
หลังคลิปเผยแพร่ไปเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 ส.ค. 2560 โดยมีการแจ้งพิกัดว่าอยู่แถวซอยฉลองกรุง 39 หน่วยกู้ภัยและฝ่ายสืบสวน สน.ฉลองกรุง จึงรีบเดินทางไปให้การช่วยเหลือ และพบว่า เหตุการณ์สงบลงแล้ว โดย น.ส.นฤมล แจ่มประเสริฐ อายุ 28 ปี เป็นผู้จับลูกชายวัย 1 ขวบ 10 เดือน ผูกคอ พร้อมอัดคลิปไว้เพื่อประชดสามี และยังคงร้องให้ฟูมฟาย มีเพื่อนบ้านมาคอยปลอบประโลม จากนั้นจึงถูกเชิญตัวมายัง สน.ฉลองกรุง เพื่อระงับสติอารมณ์ พร้อมลูกชาย และ พี่สาว
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 11 ส.ค. ภายหลังมีการเผยแพร่คลิปออกไปในโลกโซเชียล พ.ต.ท.วรากร ไชยวงค์ สว.สส.สน.ฉลองกรุง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ฝ่ายสืบสวน สน.ฉลองกรุง ได้เดินทางตรวจสอบภายในเลม่อนโฮม อพาร์ทเม้นท์ เลขที่ 9/8 ซ.ฉลองกรุง 39 (บำรุงสวัสดิ์) แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่าจะเป็นห้องพักของหญิงสาวที่ปรากฏในคลิป จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าหญิงคนดังกล่าวพักอยู่ห้องเลขที่ 105 ชั้น 1 เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้เปิดประตู จากการตรวจสอบพบตัว น.ส.นฤมล หรือ น้ำ แจ่มประเสริฐ อายุ 32 ปี และ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 1 ปี 10 เดือน หญิงสาวและเด็กที่ปรากฏในคลิป อยู่ภายในห้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งคู่มาทำการสอบสวนที่ สน.ฉลองกรุง โดยมี พ.ต.ท.ภูมิพัฒน์ พรใหญ่พงศ์ รอง ผกก.ป.สน.ฉลองกรุง
จากการสอบถามผู้ที่พักอาศัยอยู่ในตึกดังกล่าว เล่าว่า น.ส.นฤมล หรือ น้ำ พักอยู่กับสามีและลูกอีก 2 คน ซึ่งมาอาศัยอยู่ที่ตึกนี้ได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น ส่วนเด็กที่อยู่ในคลิปเป็นลูกชาย ของ น.ส.นฤมล ส่วนลูกสาวอีกคน แม่ของ น.ส.นฤมล ได้มารับไปอยู่ด้วยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาที่พักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ ทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง แต่ไม่เคยเห็นว่าทำรุนแรงขนาดนี้จะตีบ้างก็ตอนที่เด็กซนเท่านั้น
พ.ต.ท.สามารถ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหากับ น.ส.นฤมล แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นเรื่องความไม่เข้าใจในครอบครัว และทางสามีก็ไม่ได้มีการแจ้งความเอาเรื่อง หากมีการตั้งข้อหาที่รุนแรงก็จะมีปัญหาตามมาอีก ถ้าแม่ต้องติดคุก และลูกใครจะดูแล หากจะมีการแจ้งข้อหาก็เป็นเพียงข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ไม่เป็นอันตรายแก่กาย จากนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สอบสวนดูสภาพจิตใจว่าจะสามารถให้เด็กกลับไปอยู่กับครอบครัวได้หรือไม่
ต่อมา พ.ต.ต.สามารถ กลิ่นเกล้า สารวัตร (สอบสวน) สน.ฉลองกรุง และเจ้าหน้าที่ พม. ร่วมพูดคุยเจรจากันเพื่อหาทางช่วยเหลือ ภายหลังการพูดคุยนานกว่า 2 ชั่วโมง น.ส.นฤมล เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา ตนได้อัดคลิปวิดีโอเพื่อจะส่งต่อไปให้สามี เนื่องจากเครียดจากการทำงาน ซึ่งตนขายเสื้อผ้าออนไลน์ ช่วงนี้ขายของได้น้อย ประกอบกับน้อยใจที่สามีไม่สนใจ ทำแต่งานไม่สนใจครอบครัว ซึ่งวันนี้นัดกับสามีจะให้พาไปซื้อของ แต่สามีบอกควงเวรให้เพื่อนลาไม่ได้ ประกอบกับตนกลัวว่าจะไปมีหญิงอื่น ที่ทำไปก็เพื่อประชดสามี จากนั้นได้ส่งคลิปไปให้สามี และนอนหลับไป จนพี่สาวได้โทรศัพท์มาหา ว่าที่ทำไปนั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว เพราะแม่ของสามีได้นำคลิปวิดีโอดังกล่าวไปโพสต์ลงโซเชียล ตนยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายลูก และเหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนแก่ชีวิต ที่ทำลงไปเมื่อเห็นลูกเจ็บ ตัวเองก็เจ็บเช่นกัน พร้อมวอนสังคมหยุดต่อว่า ด่าทอ และข่มขู่เธอเพราะเธอสำนึกในสิ่งที่ทำแล้ว
พ.ต.ท.สามารถ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหากับ น.ส.นฤมล แต่อย่างใด เนื่องจากเห็นเวลาเรื่องความไม่เข้าใจในครอบครัว และทางสามีก็ไม่ได้มีการแจ้งความเอาเรื่อง หากมีการตั้งข้อหาที่รุนแรงก็จะมีปัญหาตามมาอีก ถ้าแม่ต้องติดคุกและลูกใครจะดูแล หากจะมีการแจ้งข้อก็เป็นเพียงข้อทำร้ายร่างกาย แต่ไม่เป็นอันตรายแก่กาย จากนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาสอบสวน ดูสภาพจิตใจอีกครั้ง ว่า จะสามารถให้เด็กกลับไปอยู่กับครอบครัวได้หรือไม่
ด้าน นายปรีชา โชคลาภ พนักงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว กรุงเทพมหานคร (บพด.กมม.) กล่าวว่า หลังจากนี้ จะส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่ รพ.ลาดกระบัง เพื่อหาดูว่ามีการบาดเจ็บที่ใดบ้าง แต่ในเบื้องต้นเท่าที่ดูตามร่างกายไม่มีร่องรอย หรือบาดแผลที่เป็นอันตรายใดๆ หลังจากนั้น ก็จะเชิญคนในครอบครัวมาพบสหวิชาชีพ รพ.รามาฯ เพื่อพูดคุย พร้องลงพื้นที่ไปดูสภาพความเป็นอยู่ว่ามีความเดือดร้อนในเรื่องใดบ้าง ในส่วนของเรื่องการดูแลเด็กได้ให้ทางแม่เป็นผู้ดูแลต่อไป โดยได้ให้พี่สาวและแม่ น.ส.นฤมล เป็นคนช่วยกันดูแล เนื่องจากเห็นว่าทางแม่เด็กไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายลูกตัวเองให้ถึงแกความตายจริงๆ ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด