xs
xsm
sm
md
lg

ส่อรื้อคดี “ธวัชชัย” อดีตที่ดินพังงา ศาลสั่ง “เสียชีวิตเพราะบุคคลอื่นทำให้ตาย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ศาลมีคำสั่ง “ธวัชชัย” อดีตที่ดินจังหวัดพังงา “ตายเพราะบุคคลอื่นทำให้ตาย” ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย น้องชายพร้อมทนายเตรียมรื้อคดีหาตัวจอมบงการสั่งฆ่า

วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งการขอไต่สวนชันสูตรพลิกศพการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อายุ 66 ปี อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องหาออกเอกสารสิทธิที่ดินทับซ้อนอุทยานแห่งชาติกว่าพันแปลง ที่เสียชีวิตภายในห้องควบคุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2559 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 4 ได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 59 ที่ผ่านมา ไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อช.4/2559 ซึ่งอัยการขอให้ศาลทำการไต่สวนและทำคำสั่งตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 148 และ 150 แสดงว่าผู้ตายเป็นใคร เสียชีวิตด้วยสาเหตุใด และใครเป็นผู้ทำ ระหว่างบุคคลนั้นถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องหาของดีเอสไอได้ถึงแก่ความตาย โดยศาลก็ได้ทำการไต่สวนพยานนับตั้งแต่ต้นปี 60 เป็นต้นมา และวันนี้เป็นการนัดฟังคำสั่งครั้งที่ 2 หลังจากเลื่อนมาเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาเนื่องจากการทำคำสั่งยังไม่แล้วเสร็จ

ในวันนี้ นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายของนายธวัชชัย ได้เดินทางมาฟังคำสั่งศาลพร้อมด้วยทนายความ

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งสองฝ่าย ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2559 ดีเอสไอร่วมกันจับกุมนายธวัชชัย ผู้ตาย ตามหมายจับของศาลอาญาในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และนำตัวไปควบคุมยังห้องควบคุมผู้ต้องหาที่ห้องควบคุมชั้น 6 อาคารดีเอสไอ โดยระหว่างการควบคุม ผู้ตายมีอาการหมดสติ มีถุงเท้ารัดอยู่ที่คอผูกติดกับบานพับประตูในห้องควบคุม ซึ่งเจ้าพนักงานที่ควบคุมอ้างว่าผู้ตายใช้ผูกคอ จึงทำการช่วยเหลือกู้ชีพเบื้องต้น และแจ้งโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และนำตัวส่งโรงพยาบาล ต่อมาผู้ตายถึงแก่ความตาย 

โดยพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าหน้าที่นิติเวช เจ้าพนักงานอัยการ และพนักงานฝ่ายปกครอง ร่วมชันสูตรพลิกศพ พบว่า สาเหตุการตายเกิดจากเลือดออกในช่องท้อง ตับแตกจากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก ร่วมกับขาดอากาศหายใจจากการผูกคอ 

มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่าเหตุและพฤติการณ์การตายเป็นอย่างไร ได้ความจากนายชยพล หวานชะเอม, พ.ต.ท.ไพโรจน์ เล้ารัตนานุรักษ์ และนายสมมาส นาควงษ์ พยานผู้ใกล้ชิดเหตุการณ์ว่า ได้ควบคุมตัวผู้ตายมาโดยตลอด จนเวลาประมาณ 1.00 น. พบผู้ตายนั่งหมดสติอยู่ในห้องควบคุม มีถุงเท้ารัดบริเวณคอ และบานพับประตู จึงดำเนินการช่วยเหลือ และมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะมารับตัวทำการกู้ชีพ

แต่เมื่อพิจารณาสภาพศพผู้ตายตามเอกสาร มีสภาพเป็นรอยแดงผ่านลูกกระเดือก ซึ่งได้ความจาก พ.ต.อ.นพ.อนุราช จิตศิลป์ ผู้ตรวจพิสูจน์สถานที่เกิดเหตุว่า ร่องรอยดังกล่าวจะพบในกรณีที่ผู้ตายถูกผู้อื่นกระทำ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่ผูกคอตายนั้นจะพบรอยแดงบริเวณเหนือลูกกระเดือกรัดใต้คางพาดผ่านไปทางหลังใบหูทั้งสองข้าง นอกจากนี้ นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้ตรวจชันสูตรพลิกศพ ได้เบิกความประกอบผลการตรวจพิสูจน์ พบบาดแผลช้ำบริเวณท้อง 3 แห่ง โดยบาดแผลดังกล่าวเกิดก่อนเวลาที่ผู้ตายจะถึงแก่ความตาย และเกิดจากของแข็งไม่มีคมกระแทก โดยมีแรงกระทำมากพอสมควร โดยเฉพาะบาดแผลบริเวณกลางท้อง จนทำให้เกิดรอยช้ำที่ขั้วลำไส้ ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ตายมีอาการเจ็บจุกเป็นอย่างมาก และพบว่ากล่องกระดูกเสียงหักทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการกดรัดบริเวณคอด้านหน้าตำแหน่งลูกกระเดือก และยังพบบาดแผลกดรัดบริเวณคอด้านหน้าขนาดกว้าง 0.5 ซม. มีบาดแผลเฉียงขึ้นไปทางด้านหลัง น่าจะเกิดจากมีวัตถุรัดคอผู้ตายในระยะเวลาเพียงเล็กน้อย ซึ่งถุงเท้าของกลางไม่น่าสามารถทำให้เกิดรอยรัดดังกล่าวได้ และจากบาดแผลฟกช้ำบริเวณคอและที่กระดูกกล่องเสียงที่หักนั้น ซึ่งโดยทั่วไปการผูกคอส่วนใหญ่ไม่สามารถเกิดรอยบริเวณกลางลูกกระเดือกได้ แต่การที่พบผู้ตายมีกระดูกซี่โครงด้านขวาและด้านซ้ายหักนั้น จากการตรวจศพทำให้ทราบว่า เกิดก่อนที่ผู้ตายจะถึงแก่ความตาย และอาจเป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นและเข้ากับการปั๊มหัวใจในการกู้ชีพผู้ตาย 

ส่วนที่พบว่ามีตับฉีกขาดมาก และมีเลือดออกในช่องท้องประมาณ 1,000 ซีซี ซึ่งอาการทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่สมดุลกัน การเลือกออกดังกล่าวทำให้ผู้ตายเกิดอาการช็อกหมดสติได้ และตับที่แตกอย่างรุนแรงก่อให้เกิดความเจ็บปวดมาก ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องจุลทรรศน์แสดงว่าอาการตับแตกเกิดขึ้นก่อนเวลา 1.00 น. และการที่ตับแตกแบบรุนแรงสามารถสันนิษฐานได้ว่าผู้ตายน่าจะไม่มีแรงกระทำอย่างอื่นต่อไปได้

พยานผู้ตรวจพิสูจน์ดังกล่าวเป็นพยานคนกลาง ไม่มีส่วนได้เสียในคดี และเบิกความตามหลักวิชาการ จึงมีน้ำหนักรับฟังประกอบกันแล้วสันนิษฐานและมีคำสั่งว่า สาเหตุการตายเกิดจากของแข็งไม่มีคมกระแทก ตับแตก เลือดออกในช่องท้อง ร่วมกับการขาดอากาศหายใจจากการผูกคอ

เมื่อจากการไต่สวนไม่ปรากฏว่ามีบุคคลอื่นเข้ามาก่อเหตุโดยไม่ทราบแน่ชัดว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำ จึงอาศัยเหตุผลดังคำวินิจฉัยมีคำสั่งว่า ผู้ตายคือนายธวัชชัย อนุกูล ตายที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2559 เวลา 4.43 น. เหตุและพฤติการณ์ที่ตาย คือ สืบเนื่องมาจากถูกของแข็งไม่มีคมกระแทกตับแตก เลือดออกในช่องท้อง ร่วมกันกับการขาดอากาศหายใจจากการผูกคอทำให้ตาย โดยยังไม่ทราบว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำ โดยระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติตามหน้าที่

โดยศาลมีคำสั่งให้ส่งสำนวนการไต่สวนชันสูตรพลิกศพของศาล ส่งไปยังพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการต่อไป

ภายหลังรับทราบคำสั่งแล้วเมื่อเวลา 11.00 น. นายชัยณรงค์ น้องชายนายธวัชชัย เปิดเผยว่า ศาลได้มีคำสั่งแล้วว่าผู้ตาย คือ นายธวัชชัย ที่เสียชีวิตเพราะมีบุคคลอื่นทำให้ตาย ดังนั้นจึงไม่ใช่การฆ่าตัวตาย โดยตนกำลังหารือกับทนายความที่จะติดตามการดำเนินการพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ต่อไปถึงการหาตัวผู้ที่ทำให้พี่ชายเสียชีวิต ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำรายงานสรุปการเสียชีวิตไว้และศาลก็รับฟังว่ามีบุคคลอื่นทำให้ตาย
กำลังโหลดความคิดเห็น