ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ แถลงจับคนร้ายวัย 37 ปี ใช้มีดบุกชิงเงินธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสะพานแดง ธัญบุรี ได้ไป 2 หมื่น พลเมืองดี 3 คนช่วยติดตามจับกุมคนร้ายได้ภายในเวลา 10 นาที พบประวัติเคยต้องโทษคดียาเสพติด
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 60 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิรัสธำรง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พร้อมตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายวัฒนา ไกรเดช หรือเอก อายุ 37 ปี ที่อยู่ 69/5 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยของกลางเงินสดจำนวน 20,000 บาท และอาวุธมีด 1 เล่ม ที่เข้าไปชิงทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสะพานแดง ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยมีพลเมืองดีจำนวน 3 คนช่วยติดตามจับกุมคนร้ายได้ภายในเวลา 10 นาทีหลังคนร้ายก่อเหตุ
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิรัสธำรง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรม ผู้มีอิทธิพล และยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายวัฒนา ไกรเดช หรือเอก อายุ 37 ปี พร้อมด้วยของกลาง โดยกล่าวหาว่าชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ พร้อมพกพาอาวุธไปในเมือง ถนน หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ส่วน พ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า คนร้ายรายนี้มีพฤติการณ์กล่าวคือ ด้วยเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 13.10 น. เจ้าพนักงานตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเหตุชิงทรัพย์ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสะพานแดง เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ระหว่างนั้นได้รับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีโดยใช้เส้นทางคู่ขนานถนนพหลโยธินขาเข้า และมีพลเมืองดีไล่ติดตามไป ทราบชื่อ นายวิชาญ จับเฟือย อายุ 43 ปี อาชีพขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างวินสะพานฟ้า, นายสุทธิโชค แซ่อึ้ง อายุ 19 ปี และนายธนากร ฤทธิ์สำอางค์ อายุ 17 ปี ศูนย์วิทยุ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ แจ้งสกัดจับตามเส้นทางหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปรามและเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงได้ติดตามไปตามเส้นทางที่ได้รับแจ้งจนสามารถควบคุมตัวนายวัฒนา ผู้ก่อเหตุไว้ได้พร้อมด้วยของกลาง ที่บริเวณริมทางคู่ขนานถนนพหลโยธินขาเข้า ก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ปตท. ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
ภายหลังได้สอบถามนายวัฒนา รับว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสะพานแดง จริง โดยเงินของกลางได้มาจากการชิงทรัพย์ธนาคารดังกล่าว เมื่อตนเองได้เงินแล้วได้หลบหนีมาที่บริเวณสะพานฟ้า จากนั้นได้ขึ้นจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อจะหลบหนีจนกระทั่งถูกจับกุม และจากการตรวจสอบประวัตินายวัฒนาพบว่า เมื่อปี 2555 เคยต้องโทษคดียาเสพติดให้โทษที่ สภ.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
สอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารให้การว่า คนร้ายได้เข้ามาทำทีขอฝากเงิน จากนั้นคนร้ายได้เข้าไปบริเวณเคาน์เตอร์ธนาคาร แล้วได้ข่มขู่เจ้าหน้าที่ธนาคารให้เอาเงินใส่ถุงให้ เจ้าหน้าที่ธนาคารเกิดความกลัวจึงส่งเงินสดให้จำนวน 20,000 บาท จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป โดยมีพลเมืองติดตามและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบจนสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายพร้อมเงินสดของกลางคืนทั้งหมด จึงได้นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี
ด้าน นายวิชาญ จับเฟือย อายุ 43 ปี อาชีพขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างวินสะพานฟ้า กล่าวว่า คนร้ายได้วิ่งมาและเรียกรถตนเองให้ไปส่ง ตนเองจึงรับ แต่ก็เอะใจที่คนร้ายได้ถือเงินมาด้วย โดยไปส่งคนร้ายที่บริเวณโรงพยาบาลธัญญารักษ์ ทั้งนี้มีวัยรุ่น 2 คนขับขี่จักรยานยนต์ไล่ตามมาด้วยพร้อมตะโกนบอกว่าเป็นคนร้ายที่ชิงเงินจากธนาคารมา ตนเองจึงจอดรถและช่วยจับกุม ต่อมาไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามมาควบคุมตัวคนร้ายรายนี้ไปดำเนินคดี
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบกระเช้าของขวัญกำลังใจแก่นายวิชาญ จับเฟือย, นายสุทธิโชค แซ่อึ้ง อายุ 19 ปี และนายธนากร ฤทธิ์สำอางค์ ที่ทั้ง 3 คนเป็นพลเมืองดีช่วยตำรวจจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทันที ทั้งนี้ ทางตำรวจจะมอบใบประกาศเกียรติคุณให้อีกครั้งเพื่อตอบแทนและยกย่องว่าเป็นพลเมืองดี ถึงแม้ว่าคดีนี้คนร้ายจะได้ทรัพย์สินไปไม่มาก แต่กระทบกระเทือนต่อความเป็นอยู่ของประชาชน และเป็นการกระทำอย่างเหิมเกริมไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทั้งที่มีลูกค้าและพนักงานธนาคารอยู่จำนวนมาก