ชาวบ้านร้องเทศบาลตำบลเสาธงหิน แก้ไขด่วน หมู่บ้านลลิลพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ก่อกำแพงปูนปิดถนนคอนกรีตที่ทาง อบต. สร้างไว้ให้ประชาชนใช้สัญจรมากว่า 20 ปี ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ปลายทางกว่า 30 หลังคาเรือน ต้องปีนกำแพงออกสู่ถนนกาญจนภิเษก
วันที่ 14 ก.ค. 60 ที่ห้องประชุมชั้น 1 เทศบาลตำบลเสาธงหิน อ.ขางใหญ่ จ.นนทบุรี นายสงวน วงคล้าย อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 หมู่ 7 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ตัวแทนชาวบ้านหมู่ 7 พร้อมด้วย นายประดับ กาญจนไพโรจน์ ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายชนินทร์ ธรรมชูเชาวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลเสาธงหิน ให้ตรวจสอบและเร่งดำเนินการ กรณีหมู่บ้านลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ปิดทางคอนกรีตเสริมเหล็ก (ถนน คสล.) ที่ทาง อบต. สร้างไว้ตั้งแต่ปี 2538 ทำให้ประชาชนที่ใช้เป็นทางสัญจรไปมาไม่สามารถเดินทางเข้า-ออกได้ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ที่มีทั้งคนชรา คนพิการ และ เด็ก ต้องปีนกำแพงปูนเพื่อเดินทางไปหาหมอและใช้ไปโรงเรียน โดยทางเทศบาลตำบลเสาธงหิน ได้ส่ง นายทิวา บุญปัญญา นิติกรเทศบาลตำบลเสาธงหิน เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนในครั้งนี้ เนื่องจากนายกเทศมนตรีติดธุระ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน จ.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่อำเภอบางใหญ่ เข้าร่วมสังเกตการณ์
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 60 ได้มีเจ้าหน้าที่ของหมู่บ้านดังกล่าวทำการก่อกำแพงปูนซีเมนต์ปิดกันถนน คสล. ที่ประชาชนใช้สัญจรมากว่า 20 ปี ซึ่งเป็นถนนคอนกรีตมีความกว้างประมาณ 1.40 เมตร และใช้เป็นทางออกสู่ถนนกาญจนภิเษก ซึ่งถนนดังกล่าวก่อสร้างตั้งแต่ปี 2538 โดยงบประมาณของ อบต.เสาธงหิน ในขณะนั้น ต่อมาเมื่อปี 2548 หมู่บ้านได้ทำการก่อสร้างและมีการประชุมร่วมกับชาวบ้านขอทำถนนตัดผ่านทางสาธารณะดังกล่าว และให้ชาวบ้านสามารถใช้ทางร่วมกับหมู่บ้านได้เพื่อเป็นทางเข้าออกไปสู่ถนนใหญ่ โดยมี นายชนินทร์ นายก อบต.เสาธงหิน ในสมัยนั้นเข้าร่วมประชุมและทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับชาวบ้าน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ถนน คสล. ได้ถูกทำกำแพงปิดกั้น ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ปลายทางทั้ง 2 ด้านไม่สามารถเข้า-ออกได้ ต้องปีนกำแพงดังกล่าวออกมา โดยบ้านที่อยู่ด้านในมีหญิงพิการและคนชราอาศัยอยู่
ดังนั้น ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จึงขอให้ทางเทศบาลตำบลเสาธงหิน เข้าตรวจสอบและแก้ไขโดยด่วน โดยชาวบ้านได้ทำการร้องเรียนทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ร้องเทศบาล แจ้งความ สภ.บางใหญ่ รวมทั้งหมด 4 ครั้งแล้ว แต่ไม่มีใครดำเนินการให้ ซึ่งทางเทศบาลได้ขอเวลาตรวจสอบเป็นเวลา 15 วัน และในระหว่างที่รอตรวจสอบไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ ชาวบ้านต้องปีนเข้า-ออกไปก่อน
นายสงวน วงคล้าย อายุ 74 ปี ชาวบ้านที่ถูกปิดทางเข้า-ออกไม่ได้ กล่าวว่า ทางนี้เป็นทางเดินเก่า ทาง อบต. เป็นคนทำทางคอนกรีตให้ เพราะเมื่อก่อนเป็นทางคันดินสวน พอน้ำท่วมเดินไม่ได้ทางราชการจึงทำทางคอนกรีต ทางนี้มีมานานกว่า 10 ปีแล้ว ทางนี้มีคนเดินผ่านไปผ่านมาเป็น 100 คน ตนไม่รู้ว่าใครสั่งปิดคนในบ้านสวนเข้าออกไม่ได้ ตนมาร้องเรียนว่าใครสั่งปิดทาง อบต.ชาวบ้านเดือดร้อนไม่มีทางออก ต้องการให้เปิดทางที่งบหลวงสร้างมาให้ อยากให้ทำให้เร็วที่สุดต้องปีนเข้า-ออก
นางสุรัตน์ สมคร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/6 หมู่ 7 ต.เสาธงหิน ชาวบ้านที่ต้องเปลี่ยนทางเข้า-ออก ไปไกลกว่าเดิม กล่าวว่า หมู่บ้านปิดทาง อบต. ที่ใช้เดินมากว่าสิบปีแล้ว ชาวบ้านเดือดร้อนเข้าออกทำงานไม่ได้ ชาวบ้านจึงมาขอพบนายกให้ท่านได้ช่วยเหลือชาวบ้านมั่ง ให้หาหนทางแก้ไขทั้งๆ ที่ทาง อบต.เป็นคนสร้างทางให้ประชาชน ตนเข้า-ออกไปทำงานทางนี้สะดวกกว่าจะให้เปลี่ยนทางไปทางอื่นมันไกล ทางนี้มีมานานแล้วตั้งแต่ปี 40 ต้นๆ ที่จำได้ มาปิดถาวรเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา อยากให้นายกลงไปดูบ้างว่าชาวบ้านเดือดร้อนมากแค่ไหน ส่วนบ้านลุงสงวนออกไม่ได้เลยตัน ทั้งๆ ที่เมียพิการ ที่เดือดร้อนมากๆ ออกไม่ได้เลยประมาณ 30 กว่าหลังคาเรือน ส่วนหลังอื่นๆ ต้องอ้อมออกไกลกว่าเดิม
นายประดับ กาญจนไพโรจน์ ทนายความเหตุผลที่มาร้องเพราะก่อนหน้านี้เป็นลำรางสาธารณะเมื่อปี 2520 และชาวบ้านสละให้เป็นสาธารณะเพราะชาวบ้านทำสวน ต่อมายอมให้ทาง อบต. ทำเป็นทาง คสล. ต่อมาถนนดังกล่าวถูกปิดได้ยังไง พอหมู่บ้านออกโฉนดมาปี 2547 ไม่มีทางสาธารณะ ชาวบ้านเดือดร้อนทางตันออกไม่ได้ เมียก็พิการ จะให้ทำยังไง ทางเทศบาลต้องตรวจสอบให้เพื่อช่วยเหลือประชาชน ตนได้ไปคุยกับทางหมู่บ้านแล้วว่าให้คุยกันก่อนแต่ทางหมู่บ้านยืนยันจะปิด
นายทิวา บุญปัญญา นิติกรเทศบาลตำบลเสาธงหิน กล่าวว่า อันดับแรกขอตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อเรียกร้องว่ามันเกิดจากสาเหตุใด แต่ตามขั้นตอนนั้นต้องใช้เวลา 15 วัน ซึ่งเราจะออกไปสำรวจพื้นที่ จากเหตุการณ์ที่ถนนถูกปิดเมื่อวานทาง อบต. เพิ่งทราบ สำหรับ 15 วันที่รอคำตอบตนยังตอบไม่ได้ว่าต้องทำยังไง ขอรับเรื่องไว้ตรวจสอบก่อน