สน.โชคชัย แกะรอยแก๊งทุบกระจกรถหรู รวบหนุ่มใหญ่ตามหมายจับคาซอยลาดพร้าว 81 ค้นห้องพบของกลางกว่า 100 รายการ ประวัติคดีลักทรัพย์ติดตัวยาวเหยียด อีกรายเป็นวัยรุ่นรับขี่ จยย.ตระเวนไปส่งก่อเหตุแลกค่าจ้าง 1,000 บาทต่อวัน
เมื่อเวลา 22.45 น. วันที่ 12 ก.ค. ที่ สน.โชคชัย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.น. 4 พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ท.พรทวี สมวงศ์ รอง ผกก.ป.สน.โชคชัย พ.ต.ต.อภิโชค ขนบดี สว.สส สน.โชคชัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งทุบกระจกรถหรู (แก๊งไฮโซ) ประกอบด้วย นายโชติวรรธน์ หรือ เอก กลิ่นเกลี้ยง อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1568/2560 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 ในข้อหาร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป โดยจับกุมได้บริเวณลานจอดรถศูนย์การค้าซีดีซี โซน ซี แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ และ นายณัฐวัฒน์ หรือไก่ หมื่นพินิจ อายุ 23 ปี โดยจับกุมได้ที่ลาดพร้าวแกรนด์วิลล์ กลางซอยลาดพร้าว 81 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. พร้อมของกลางกว่า 100 รายการ
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 16.00 น. ผู้เสียหายได้ขับรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ สีดำ มาจอดที่ลานจอดรถด้านหลังศูนย์การค้าซีดีซี แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น.ได้กลับมาที่รถเพื่อจะกลับที่พัก จึงพบว่ากระจกรถยนต์ด้านหน้าข้างคนขับคันแตก ตรวจสอบทรัพย์สินภายในรถพบว่ากระเป๋าถือยี่ห้อ FENDI สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ และกระเป๋าใส่เงินยี่ห้อ HERNES สีน้ำเงิน 1 ใบได้หายไป
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่า เวลาประมาณ 16.53 น. มีคนร้ายจำนวน 2 คนขี่ จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีขาว-ส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดบริเวณใกล้กับที่รถยนต์ของผู้เสียหายจอดอยู่ จากนั้นคนซ้อนท้ายได้เดินเข้ามาที่บริเวณกระจกรถด้านหน้าข้างคนขับของรถยนต์ผู้เสียหาย แล้วลงมืองัดกระจกแล้วเอาทรัพย์สินในรถยนต์ของผู้เสียหายไป
เจ้าหน้าที่จึงติดตามคนร้ายตามเส้นทางหลบหนีจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุได้พักอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 174 ซอยลาดพร้าว 81 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย จึงได้นำกำลังลงพื้นที่พร้อมนำหมายค้นศาลอาญาที่ 267/2560 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 เข้าไปตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวจนสามารถจับกุมตัวนายโชติวรรธน์ได้ ผลการตรวจค้นพบทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ และพบจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า PCX สีขาว-ส้ม ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุทุบกระจกรถ
จากการสอบสวนทราบว่า นายณัฐวัฒน์ได้รู้จักกับนายบดินทร์ภัทร์ หรือเอส กลิ่นเกลี้ยง ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ต่อมานายณัฐวัฒน์ได้ติดต่อของานทำกับนายบดินทร์ภัทร์ โดยนายบดินทร์ภัทร์ได้ให้นายณัฐวัฒน์มาทำหน้าที่ขับขี่จักรยานยนต์หารถยนต์เป้าหมายที่จะทุบกระจกรถให้ โดยใช้จักรยานยนต์พีซีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นของคนรู้จักนายณัฐวัฒน์ และให้นายณัฐวัฒน์ใช้ประจำมาก่อเหตุ โดยนายบดินทร์ภัทร์จะเป็นคนสั่งการว่าจะให้ขับขี่ไปในทางใด และเป็นผู้เลือกเป้าหมาย เมื่อพบเป้าหมายแล้วนายบดินทร์ภัทร์จะแจ้งให้นายณัฐวัฒน์หยุดรถ และจะลงไปก่อเหตุใช้ไขควงปากแบนงัดและทุบกระจกรถยนต์แล้วเอาทรัพย์สินออกมา จากนั้นได้กลับมาซ้อนท้ายนายณัฐวัฒน์ เพื่อหลบหนีหรือหาเป้าหมายใหม่ ซึ่งขณะซ้อนท้ายนั้นนายบดินทร์ภัทร์จะค้นดูสิ่งของมีค่าในกระเป๋าที่ลักมาได้เองทั้งหมด หากไม่มีเป้าหมายเพิ่มก็จะสั่งให้ขี่รถเข้าบ้านเลขที่ 174 ซ.ลาดพร้าว 81 บ้านของนายบดินทร์ภัทร์ จากนั้นนายบดินทร์ภัทร์จะคัดแยกสิ่งของและนำไปขายเองหรือจำหน่ายเอง โดยนายณัฐวัฒน์ไม่ทราบรายละเอียด โดยนายบดินทร์ภัทร์จะให้ค่าจ้างเป็นเงินสด 1,000 บาทต่อวัน รวมทั้งเติมน้ำมันให้เต็มถังทุกครั้ง โดยในการก่อเหตุนายบดินทร์ภัทร์จะสวมถุงมือทุกครั้ง เพื่อป้องกันรอยลายนิ้วมือติดรถ และจะทำการถอดป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ก่อนออกก่อเหตุทุกครั้ง และมักเลือกรถยนต์หรูหรือมีราคาแพง และดูเป็นรถใหม่ทุกครั้ง ส่วนทรัพย์สินหรือกระเป๋าที่ไม่ต้องการก็จะนำไปเอาหินถ่วงโยนทิ้งน้ำในทันที
ส่วนกรณีที่นายโชติวรรธน์ได้ขับขี่รถป๊อปมาเจอรถเป้าหมายจอดอยู่เป็นรถหรูจึงเลี้ยวกลับรถไปรับนายบดินทร์ภัทร์มายังรถเป้าหมาย และนายบดินทร์ภัทร์จะเป็นผู้ลงไปก่อเหตุเสร็จแล้วจึงกลับมาซ้อนท้ายนายโชติวรรธน์กลับเข้าบ้านพัก ทั้งนี้ นายบดินทร์ภัทร์จะเป็นตัวหลักในการหารถเป้าหมาย โดยการวิ่งจากบ้านไปออกกำลังกายในละแวกใกล้เลียบทางด่วน เมื่อเจอเป้าหมายก็จะเรียกรถแท็กซี่นั่งกลับเข้าบ้านแล้วให้คนขับขี่ออกไปก่อเหตุ โดยจะทำหน้าที่นั่งซ้อนท้าย จยย. ที่มี นายณัฐวัฒน์ หรือ นายโชติวรรธน์ เป็นคนขับ
นายโชติวรรธน์รับสารภาพว่า หลังจากได้ก่อเหตุเสร็จจะขับรถหลบหนีเข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าว ส่วนนายณัฐวัฒน์ รับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุทุบกระจกรถจริง โดยได้ก่อเหตุตามพื้นที่ต่างๆ ในพื้นที่ สน.โชคชัย ก่อเหตุร่วมกับ นายบดินทร์ภัทร์ หรือเอส กลิ่นเกลี้ยง ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า PCX สีขาว-ส้ม ครั้งแรกทุบกระจกรถบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว บริเวณลานกีฬาใต้ทางด่วน ครั้งที่ 2 ทุบกระจกรถมินิคูเปอร์ บริเวณริมถนนซอยโยธินพัฒนา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ครั้งที่ 3 ทุบกระจกรถบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ ภายในซอยลาดพร้าว 87 ก่อนถึงแยก 23 ใกล้ไซต์งานก่อสร้าง ครั้งที่ 4 ทุบกระจกรถเบนซ์ สีดำ บริเวณลานจอดรถห้างซีดีซี ครั้งที่ 5 ทุบกระจกรถเบนซ์ สีดำ บริเวณลานจอดรถโฮมโปร นอกจากนี้ ยังก่อเหตุในท้องที่อื่นทั้ง สน.คันนายาว สน.วังทองหลาง สน.โครกคราม สน.บางซื่อ สน.บางเขน สน.สายไหม สภ.บางศรีเมือง สภ.คลองข่อย สภ.เมืองนนท์ สภ.คูคต สน.ทุ่งสองห้อง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัตินายโชติวรรธน์ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ, รับของโจร, ทำให้เสียทรัพย์ ในพื้นที่ สน.โชคชัย เมื่อปี 52, ร่วมกันลักทรัพย์ ในพื้นที่ สภ.เมืองสกลนคร เมื่อปี 52, ลักทรัพย์ ในพื้นที่ สน.โครกคราม เมื่อปี 54 และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง ปี 54
ส่วนนายณัฐวัฒน์ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พื้นที่ สภ.แหลมฉบัง, ครอบครองยาเสพติด พื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี และเสพยาเสพติด พื้นที่ สภ.แหลมฉบัง นายบดินทร์ภัทร์ หรือเอส กลิ่นเกลี้ยง ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ, รับของโจร, ทำให้เสียทรัพย์ ในพื้นที่ สน.โชคชัย เมื่อปี 52, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง ปี 54
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาต่อนายโชติวรรธน์ในข้อหาร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป นายณัฐวัฒน์ แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป, โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการประสาน สน. และ สภ.ต่างๆ รวมถึงประชาชนผู้เสียหายให้เข้ามาดูผู้ต้องหา และทรัพย์สินรายการต่างๆ ที่ตรวจยึดได้ที่ สน.โชคชัย