สาวใหญ่ถูกแทงหลายแผลเสียชีวิตจมกองเลือด ในหมู่บ้านกิตติชัยวิลล่า ย่านหนองจอก คาดฝีมือสามีใหม่ชาวปากีสถาน หลังทะเลาะกันอย่างรุนแรง 3 วันติด
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 12 ก.ค. ร.ต.อ.ศรุต บุญฤทธิ์นิโรจน์ รอง สว. (สอบสวน) สน.หนองจอก รับแจ้งพบศพเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 20/15 หมู่บ้านกิตติชัยวิลล่า ซอยมิตรไมตรี 6/1 แขวงและเขตหนองจอก กทม. จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.พรเทพ สูติปัญญา ผกก.สน.หนองจอก พ.ต.อ.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ ผกก.สส.บก.น.3 แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิราชพฤกษ์ (หนองจอก)
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เนื้อที่ 22 ตารางวา ที่ชั้น 1 ใต้บันไดทางขึ้นชั้น 2 บริเวณเตียงนอนพบศพ นางนภัสสร ปาทาน อายุ 39 ปี สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงขายาวสีเทา มีร่องรอยบาดแผลถูกทำร้ายด้วยของมีคมหลายแห่ง ที่ข้อมือซ้ายและใบหน้าจำนวนหลายแผลเสียชีวิตจมกองเลือด จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบมีร่องรอยการต่อสู้ แต่ไม่พบร่องรอยรื้อค้นสิ่งของ นอกจากนี้ ภายในห้องน้ำชั้น 1 ยังพบคราบเลือด และพบอาวุธมีดปลายแหลมยาว 10 นิ้ว ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายวิจิตร นุ้ยบุญแก้ว อายุ 50 ปี เพื่อนบ้านหลังเกิดเหตุ เผยว่า บ้านหลังดังกล่าวมีคนอาศัยอยู่ทั้งหมด 4 คน คือ 1. ผู้ตาย 2. สามี 3. ลูกสาว-ลูกชาย โดยเช่าบ้านหลังนี้อยู่ด้วยกันมาได้ 4 ปี โดยก่อนหน้านี้ บ้านหลังดังกล่าวมีเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง 3 วันติดต่อกันก่อนเกิดเหตุ จนกระทั่งวันนี้ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกันอีก แต่ช่วงเวลา 15.00 น.ทางสามีของผู้ตายได้เดินออกมาจากบ้านมุ่งหน้าไปหน้าหมู่บ้านก่อนจะหายตัวไป จนเกิดเหตุดังกล่าว
ด้านลูกชายผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.4 กลับมาบ้านตอนเวลา 16.00 น. ปรากฏว่าเข้าบ้านไม่ได้เนื่องจากบ้านล็อก จึงนั่งรอพี่สาวอยู่หน้าบ้าน จนกระทั่งพี่สาวกลับจากเรียนมหาวิทยาลัย ตอน 20.00 น.ก็ยังเข้าบ้านไม่ได้อีก เลยลองตะโกนเรียกแม่แต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้ จึงตัดสินใจปีนหลังบ้านแล้วเห็นแม่นอนอยู่ในสภาพดังกล่าวจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายมีสามีและมีลูกด้วยกัน 2 คน มีการจดทะเบียนกันก่อนจะหย่ากันไป ต่อมาผู้ตายคบหาอยู่กับสามีใหม่ชาวปากีสถานและอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับลูกมานาน 3-4 ปี ก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านได้ยินเสียงกรีดร้อง จนกระทั่งเวลาประมาณเวลา 15.00 น.มีคนพบเห็นผู้ต้องสงสัยเดินออกจากบ้านซึ่งเวลาเกิดเหตุน่าจะอยู่ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ส่วนอาวุธมีดที่พบคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาเส้นทางหลบหนีของคนร้ายซึ่งคาดว่าน่าจะยังอยู่ภายในประเทศ นอกจากนี้ กล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านสามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยไว้ได้ขณะเดินออกจากบ้านที่เกิดเหตุ และเดินเท้ามุ่งหน้าไปทางออกหมู่บ้าน ส่วนผู้ต้องสงสัยดังกล่าวคือ นายเมียน วากัส อาหมัด อายุ 27 ปี ชาวปากีสถาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัว