ผู้การ ปปป. เผย ให้สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตรวจสอบหาคนทุจริตเงินบำรุงวัดทั่วประเทศให้ได้ก่อน ค่อยส่งเรื่องมาให้ บก.ปปป. สอบต่อ เชื่อมั่น พศ. ตั้งใจหาคนทำผิด ยันไม่ถูกกดดันจากใคร แต่เชื่อให้ พศ. ตรวจสอบเองก่อนน่าจะดีที่สุด
วันนี้ (12 ก.ค.) กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เปิดเผยความคืบหน้าการสรุปคดีทุจริตโกงเงินงบประมาณบูรณะซ่อมแซมปฏิสังขรณ์วัด หรือ การทุจริตเงินทอนวัด จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) รอบสอง ทั้งหมด 27 วัดทั่วประเทศ ก่อนมอบหมายให้ พศ. ขยายผลหาผู้กระทำผิดต่อไป ว่า สืบเนื่องจาก พศ. มีข้อมูลอยู่ทั้งหมดจึงเป็นเรื่องง่ายในการตรวจสอบวัดที่เข้าข่ายการทุจริต จากนั้นก็จะส่งเรื่องมาให้ทาง บก.ปปป. ทำการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ เพียงแต่ บก.ปปป. ไม่ได้เป็นฝ่ายให้กำลังเจ้าหน้าที่ลงไปกระจายสุ่มตรวจวัดต้องสงสัยทั่วประเทศเหมือนครั้งแรกแล้ว เพราะการลงพื้นที่แต่ละครั้ง เสียงบประมาณ เสียเวลารวมถึงกำลังคนจำนวนมาก
“ส่วนกรณีประชาชนอาจกังวลเรื่องความโปร่งใสที่จะให้หน่วยงาน พศ. ตรวจสอบกันเองนั้น ผมเชื่อมั่นในหน่วยงาน พศ. ที่มีความตั้งใจค้นหากลุ่มผู้กระทำความผิด ทั้งนี้ หากมีข้อมูลอื่นๆ ว่า มีการทุจริตแล้วทาง พศ. ไม่ได้ลงไปตรวจสอบ ทาง บก.ปปป. จะเป็นผู้ดำเนินการสืบสวนเอง สำหรับเหตุผลที่ บก.ปปป. ไม่ขยายผลต่อไปนั้น ไม่ได้เกิดจากการถูกกดดันจากฝ่ายไหน เพียงแต่มองว่าการให้ พศ. ไปตรวจสอบก่อนจนพบว่ามีการทุจริตที่ไหนอย่างไรแล้วจากนั้นมาแจ้งทาง บก.ปปป.ลงไปสืบสวนเป็นวิธีการบริหารจัดการคดีที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด” พล.ต.ต.กมล กล่าว
