MGR Online - กลุ่มบริษัท จูบิลี่ไลน์ เดินทางมาดีเอสไอ รับทราบข้อกล่าวหานำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษี ส่วน “บอย ยูนิตี้” นัดเข้าพบพนักงานสอบสวน 6 ก.ค. นี้ พบมีเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวขบวนการ แจ้งต้นสังกัดส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ
วันนี้ (4 ก.ค.) แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเรียกกลุ่มบุคคลและนิติบุคคลนำเข้ารถยนต์หรูเลี่ยงภาษี ว่า วันนี้กลุ่มผู้ประกอบการบริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด ผู้นำเข้ารถยนต์ในนามของบริษัท นิชคาร์กรุ๊ป เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามความผิดมาตรา 27 พ.ร.บ. ศุลกากร ที่ระบุว่า ผู้ใดนำของที่ยังไม่ได้เสียภาษีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย หรือออกนอกราชอาณาจักร หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร ต้องปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของรวมกับอากร หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยบริษัท จูบิลี่ไลน์ สำแดงใบขนส่งสินค้าเป็นเท็จทั้งหมด 28 ใบ ซึ่งมีโทษจำคุกใบละ 10 ปี
ส่วนผู้ต้องหารายอื่นๆ รวมถึง นายภาณุพงศ์ หรือ นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ บอย ยูนิตี้ มีกำหนดเข้าพบพนักงานสอบสวนวันที่ 6 ก.ค. นี้ ซึ่งการนัดเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ไม่สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมารับทราบข้อกล่าวหาแทนได้ ผู้ต้องหาต้องเดินทางด้วยตนเอง
แหล่งข่าวยังกล่าวถึงกรณีการแอบอ้างยื่นเอกสารเท็จประมูลรถขายทอดตลาดของ ขส.ทบ. ว่า ในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ค.) กรมการขนส่งทางบก และ ขส.ทบ. จะนำหลักฐานรถที่นำเข้าประมูลทั้งหมด 1,300 กว่าคัน มาให้ดีเอสไอรับไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ เพื่อสอบสวนขบวนการนำรถผิดกฎหมายเข้าไปฟอกผ่านการประมูลรถยนต์ของหน่วยงานราชการ โดยแนวทางการสอบสวน คือ ตรวจสอบที่มาของรถว่าเป็นรถจดประกอบ นำเข้าผิดกฎหมาย หรือเป็นรถสำแดงเอกสารใบอินวอยซ์เท็จ หรือรถที่ถูกลักลอบนำออกมาจากเขตฟรีโซน
ทั้งนี้ เบื้องต้นพบว่ารถที่นำมาประมูลมีราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปจำนวนไม่มาก โดยส่วนมากเป็นรถจิ๊ปทหารถูกนำมาตัดหัวตัดท้าย สวมเลขเครื่อง คาดว่า น่าจะเป็นรถโจรกรรมมา ขณะที่พบว่ามีรถถูกนำไปยื่นขอจะทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกแล้ว 605 คัน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดนั้น ต้นสังกัดได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการแล้ว