ไกล่เกลี่ยกันได้ คลิปปล่อยสุนัข 7 ตัว รุมขย้ำเด็กหญิงวัย 5 ขวบ เจ้าของสุนัขยอมจ่ายค่ารักษาและค่าทำขวัญให้อีก 5 หมื่นบาท
จากกรณีได้มีการแชร์ภาพวงจรปิดขณะที่สุนัขกว่า 7 ตัว รุมกัดเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ขณะเดินออกมานอกบ้าน จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะมีชาวบ้านเข้ามาช่วยเหลือ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 60 ที่ผ่านมา ที่กลางซอยวัดไตรสามัคคี ซอย 8 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนที่นางสัมพรรณ หมื่นชอบ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นย่าจะพา ด.ญ.สุณิสา หมื่นชอบ หรือน้องมิ้น อายุ 5 ขวบ จะเดินทางมาขอลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ
วันที่ 3 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณกลางซอยวัดไตรสามัคคีซอย 8 พร้อมกับเข้าสอบถามอาการบาดเจ็บของน้องมิ้น ซึ่งพักอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไม่มากนัก โดย น.ส.เสาวนีย์ ถวิลรักษ์ อาของน้องมิ้น เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 18.10 น. ขณะที่หลานกำลังจะเดินออกมาหาตนที่ทำงาน อยู่ห่างจากบ้านเพียง 30 เมตร จากนั้นได้ยินเสียงร้องของเด็กผู้หญิงเสียงเหมือนน้องมิ้น จึงวิ่งออกมาดู พบสุนัขจำนวนหลายตัวกำลังรุมกัดน้องมิ้น และมีก่อนที่จะมีชาวบ้านวิ่งเข้าไปช่วย ต่อมาหลังจากเกิดเหตุ ทางพี่โจ้ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของสุนัขได้ออกมารับผิดชอบ โดยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด 18,000 บาท ตนก็ไม่อยากจะเรียกร้องอะไรมากเนื่องจากเป็นคนที่อยู่ใกล้เรือนเคียงกัน
น.ส.เสาวนีย์เล่าอีกว่า จนเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 60 ลุงคู่กรณีได้ไปแจ้งความว่าตนเข้าไปลักทรัพย์ขโมยทองภายในบ้านทำให้หมาไล่กัดหลานตน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เดินทางบ้านของตนเพื่อมาเชิญตัวตนไปสอบปากคำ ตลอด 20 ปีไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้กับตน แต่ทราบว่าตำรวจไม่รับแจ้งเนื่องจากสอบปากคำแล้วไม่มีมูลจริง ตนไม่เข้าใจว่าทำไมเราเป็นผู้เสียหาย ทางลุงคู่กรณีกลับจะมาแจ้งความจับเราอีก และโชคดีที่มีภาพกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานว่าลุงปล่อยสุนัขออกมาจากบ้านก่อนที่จะมารุมกันหลานของตน
ต่อมาเวลา 13.00 น. วันที่นางสัมพรรณ และ น.ส.เสาวนีย์ ได้พาน้องมิ้นเดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อนัดไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี ก่อนที่นายโจ้ (ไม่อนุญาตให้เปิดเผยชื่อจริง) อายุ 30 ปี ลูกชายคู่กรณีได้เดินทางมาแทน ทั้งสองฝ่ายจะเจรจากันโดยเบื้องต้นนายโจ้ยินดียอมจ่ายค่ารักษาและค่าทำขวัญให้อีกจำนวน 5 หมื่นบาท ตามที่นางสัมพรรณเรียกร้อง ซึ่งทั้งสองฝ่ายจึงจบลงด้วยดี ส่วนเรื่องของคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาปล่อยปละละเลยสัตว์ดุร้าย เป็นประการให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์ หรือบุคคล มีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับต่อเจ้าของสุนัขต่อไป