MGR Online - ศาลอาญาพิพากษา คดีน็อตกราบรถ และพวกรวม 2 คน สั่งจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โดยลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี แต่รอลงอาญา 2 ปี รายงานตัวทุก 3 เดือน 4 ครั้ง รวมเป็น 1 ปี และบริการสังคมอีก 24 ชั่วโมง
วันนี้ (30 มิ.ย.) ศาลอาญากรุงเทพใต้ ซ.เจริญกรุง 63 ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีทำร้ายร่างกาย หมายเลขดำ อ.1248/60 ที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 2 เป็นโจทก์ฟ้อง นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือ น็อต เวคคลับ อายุ 28 ปี อดีตพิธีกรรายการชื่อดัง และ นายวิทวัส ศรีบัณฑิตมงคล อายุ 29 ปี เพื่อนของ นายอัครณัฐ เป็นจำเลยที่ 1 - 2 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ฯ
กรณีเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2559 เวลากลางวัน นายอัครณัฐ จำเลยที่ 1 โดยใช้ฝ่ามือตบที่ใบหน้าของนายกิตติศักดิ์ หรือ บอย สิงห์โต อายุ 26 ปี พนักงานคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน ผู้เสียหาย และเป็นโจทก์ร่วมในคดี 2 ครั้ง และต่อยที่บริเวณใบหน้าอีก 1 ครั้ง ทำให้กระดูกจมูกชิ้นใหญ่จำนวน 4 ชิ้นหัก กระดูกจมูกชิ้นเล็กอีกจำนวนหลายชิ้นหัก รวมทั้งมีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตาทั้งสองข้างได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นอันตรายแก่กายเและจิตใจ นอกจากนี้ยังบังคับให้นายกิตติศักดิ์ ผู้เสียหายกราบรถของจำเลยที่ 1 เนื่องจากไม่พอใจ ที่นายกิตติศักดิ์ ขี่รถจยย.เฉี่ยวชน รถยนต์ยี่ห้อ “มินิคูเปอร์” ของ นายอัครณัฐ จำเลยที่ 1 ได้รับความเสียหาย บริเวณปากซ.เจริญกรุง 44 กทม.
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา ศาลได้ดำเนินการไกล่เกลี่ยค่าเสียหายทางแพ่งสำเร็จโดยนายอัครณัฐ ให้การรับสารภาพ และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่นายกิตติศักดิ์ ผู้เสียหาย เป็นเงินจำนวน 180,000 บาท เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล และค่าผ่าตัดทำดั้งจมูกใหม่
ทั้งนี้ ก่อนศาลมีคำพิพากษาได้มีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติ สืบเสาะประวัติ ครอบครัว สถานะ การศึกษา และอื่นๆ ของจำเลยทั้งสอง แล้วรายงานให้ศาลทราบเพื่อนำมาพิจารณาประกอบ
ศาลพิเคราะห์รายงานการสืบเสาะ ประกอบคำรับสารภาพแล้ว เห็นว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดจริง จึงพิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้คนละ 1 ปี จากรายงานการสืบเสาะไม่ปรากฏว่า จำเลยทั้งสองเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ให้จำเลยทั้งสองบริการสังคม เป็นเวลา 24 ชั่วโมง และให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน รวม 4 ครั้ง ในเวลา 1 ปี
โดยวันนี้ นายอัครณัฐ มีสีหน้าแจ่มใสเดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมครอบครัว
ภายหลังฟังคำพิพากษา นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความนายกิตติศักดิ์ โจทก์ร่วม เปิดเผยว่า ศาลพิพากษาจำคุก นายอัครณัฐ กับเพื่อนคนละ 2 ปี ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งเป็นโทษหนักสุด และลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกคนละ 1 ปี จำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอลงอาญา 2 ปี โดยให้ทำงานบริการสังคมด้วย คนละ 24 ชั่วโมง พร้อมรายงานตัวทุกๆ 3 เดือน จำนวน 4 ครั้ง ซึ่งโจทก์ร่วมจะไม่อุทธรณ์คดี เนื่องจากมีการเยียวยาเป็นเงินจำนวน 180,000 บาทแก่โจทก์ร่วมเรียบร้อยแล้ว
ส่วนคดีที่ นายอัครณัฐ แจ้งความดำเนินคดีกับนายกิตติศักดิ์ ฐานขี่ จยย. หลบหนีหลังเกิดเหตุเฉี่ยวชน นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ได้สั่งฟ้องและส่งสำนวนให้อัยการศาลแขวงพระนครใต้พิจารณา โดยอัยการยังไม่มีคำสั่งทางคดี ทั้งนี้ นายกิตติศักดิ์ ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการพิจารณาด้วย เนื่องจากได้เสียค่าปรับจำนวน 400 บาทแล้ว
ขณะที่ นายอัครณัฐ เปิดเผยว่า ขอขอบคุณศาลที่เมตตา รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้วางแนวทางงานบริการสังคม โดยส่วนตัวอยากสอนหนังสือเด็กและเยาวชน เกี่ยวกับการใช้สติ อารมณ์ และการใช้ชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุตนมีสติมากขึ้น และไม่ค่อยขับรถเองจะให้คนอื่นขับมากกว่า พร้อมฝากเตือนทุกคนให้ใจเย็นๆ ใครเป็นคนผิดก็ต้องรับผิดชอบ
ส่วนเรื่องงาน ตอนนี้ก็เริ่มมีงานติดต่อมาบ้าง ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ สำหรับสภาพจิตใจขณะนี้ดีขึ้นมากแล้ว