ตำรวจ ปคม.ฝากขัง หนุ่มเชียร์แขก “วีทู” อาบ อบ นวด ลวงเด็กสาวค้าประเวณี

ตำรวจ ปคม. ฝากขัง หนุ่มเชียร์แขก “วีทู” อาบ อบ นวด หลอกลวงเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี จากโคราช ค้าประเวณีให้ลูกค้า ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขัง

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ภิรมย์ เศษคึมบง พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. เดินทางมายื่นคำร้องฝากขัง นายพลวัฒน์ คำมีภักดี อายุ 30 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยเป็นธุระจัดหา ซื้อขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด โดยข่มขู่ใช้กำลังบังคับหลอกลวงโดยมิชอบ โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี และไม่เกิน 18 ปี, เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหรือหญิงโดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้ายใช้วิธีข่มขืนใจผู้อื่นฯ โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี, ชักจูงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร, ยินยอมหรือกระทำแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก, พรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง โดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วย, เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไป เพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหรือหญิง แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม, เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งบุคคลเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม มาฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.- 3 ก.ค. 2560 ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2560 เวลา 14.00 น. น.ส.ฑิภาพร หรือ ปู ผู้ต้องหาอีกราย ได้นัดหมายกับนายพลวัฒน์ หรือ บิว ผู้ต้องหาที่เป็นคนเชียร์แขกของ วีทู อาบอบนวด มาพูดคุยกันที่ร้านอาหารมัจฉา ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง จ.นครราชสีมา เรื่องที่จะพา น.ส.เอ (นามสมมติ), น.ส.ดรีม (นามสมมติ) น.ส.โบ (นามสมมติ) ไปทำงานที่ร้าน วีทู อาบอบนวด ย่านโชคชัย 4 กทม. โดยนายพลวัฒน์ ผู้ต้องหา บอกว่า จะพาไปชงเหล้า เสิร์ฟอาหาร ที่ร้านดังกล่าว แต่ น.ส.เอ และ น.ส.ดรีม ไม่มีความประสงค์ที่จะไปทำงานดังกล่าว และ น.ส.เอ อายุไม่ถึง 18 ปี จึงไม่อยากที่จะไปทำงาน แต่ น.ส.ฑิวาพร หรือ ปู บอกว่า ถ้าหากไม่ไปทำงานกับนายพลวัฒน์ ผู้ต้องหาจะมีปัญหากัน และข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย จากนั้น น.ส.ฑิภาพร หรือ ปู จึงนัดหมายให้นายพลวัฒน์ ผู้ต้องหา มารับทั้งสามคน ที่พีพีเพลส ในเมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2560 ก่อนเดินทาง น.ส.ฑิพาพร บอกกับ นายพลวัฒน์ ผู้ต้องหา ว่า ขอเบิกเงินเป็นค่าใช้จ่ายล่วงหน้าของทั้งสามไว้ รายละ 3,000 บาท รวม 9,000 บาท โดยที่ทั้งสามคนไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวแต่อย่างใด หลังจากที่ นายพลวัฒน์ ผู้ต้องหาจ่ายเงินให้ น.ส.ฑิภาพร แล้ว จึงพาทั้งสามคนเดินทางจาก จ.นครราชสีมา ไป กรุงเทพฯ โดยรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นอเมร่า เมื่อมาถึง วีทู อาบอบนวด ตั้งอยู่ซอยลาดพร้าว 55/2 ถ.ลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. เมื่อเวลา 24.00 น. ได้พักอยู่ 1 คืน และได้เริ่มทำงานที่ร้านวีทู อาบอบนวด ในวันที่ 17 พ.ค. 2560 เวลาประมาณ 12.00 น. ในการทำงานที่ วีทู อาบอบนวด ผู้กล่าวหาจะนั่งอยู่บนโซฟาที่ทางร้านจัดให้นั่ง ซึ่งเป็นจุดที่ลูกค้ามาเลือก จากนั้นลูกค้าได้พา น.ส.เอ ขึ้นไปชั้น 2 ของร้านเพื่อร่วมประเวณี และเลิกงานในเวลา 24.00 น. โดยจะได้ค่าตัว 2,000 บาท/ครั้ง แต่ น.ส.เอ ได้รับเงินจริงเพียง 750 บาทต่อครั้ง ทำอยู่ประมาณ 3 วัน นายพลวัฒน์ ผู้ต้องหาได้มาเช่าห้องพักให้ทั้งสามอยู่ตรงข้ามร้านวีที อาบอบนวด โดยบอกว่า มีค่าใช้จ่ายประมาณ 1 หมื่นบาทเศษ และนำไปรวมกับเงินจำนวน 9,000 บาท ที่นายพลวัฒน์ ผู้ต้องหา จ่ายให้กับ น.ส.ฑิภาพร หรือ ปู รวมแล้วเป็นหนี้ผู้ต้องหาคนละประมาณ 7,400 บาท ทั้งที่ทั้งสามไม่เคยเป็นหนี้นายพลวัฒน์มาก่อน แต่ต้องทำงานใช้หนี้ดังกล่าว ซึ่งนายพลวัฒน์ผู้ต้องหาบอกว่า ต้องผ่อนจ่ายวันละ 500-1,000 บาท โดยทั้งสามทำงานอยู่ที่ ร้านวีทู อาบอบนวด ได้ประมาณ 1 สัปดาห์เศษ

ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. ได้ขอหมายจับ นายพลวัฒน์ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1426/2560 ลงวันที่ 20 มิ.ย. 2560 กระทั่งวางแผนจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ร้าน วีทู ขณะที่ผู้ต้องหาได้แนะนำพนักงานหญิงสาว จำนวน 3 คน ค่าตัวคนละ 2,600 บาท เพื่อเสนอขายบริการทางเพศแก่สายลับ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. จากนั้นจึงนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิดที่ร้านวีทู อาบอบนวด ตั้งอยู่ ซอยลาดพร้าว 55/2 ถ.ลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.

ทั้งนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา จะครบ 48 ชั่วโมง แต่ยังสอบสวนไม่เสร็จ จะต้องสอบสวนพยานอีก 5 ปาก รอผลตรวจประวัติการต้องโทษ และรอเสนอสำนวนให้ผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณา และขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง จึงขออำนาจศาลฝากขัง

ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้นำตัวนายพลวัฒน์ผู้ต้องหาไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ