MGR Online - สมาพันธ์กุ้งก้ามแดง ร้องดีเอสไอเอาผิดประธานสหพันธ์ฯ ลวงเหยื่อผ่านเฟซบุ๊ก หลอกขายแพกเกจการลงทุน มีสมาชิกทั่วประเทศราว 3,000 คน เพื่อขอให้รับเป็นคดีพิเศษ เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ มูลค่าความเสียหาย 500 ล้าน
วันนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ศูนย์ราชการฯ อาคารบี นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย พาตัวแทนผู้เสียหายร่วม 10 รายที่ถูกหลอกลวงให้ลงทุนเลี้ยงกุ้งก้ามแดง ยื่นเอกสารร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อดำเนินคดีกับ ประธานบริษัท อินฟินิตี้ แกรนด์ โอเวอร์ ในฐานะประธานสหพันธ์กุ้มก้ามแดง ซึ่งมีสมาชิกทั่วประเทศประมาณ 2,000 - 3,000 คน ตกเป็นเหยื่อ มูลค่าความเสียหาย 500 ล้านบาท โดยมี นายทัชชกร อรรณพเพ็ชร ผอ.ส่วนบริหารระบบงานคดีพิเศษ ศูนย์บริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง
นายธนกร พันหล้า เกษตร จ.อุดรธานี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อประมาณเดือน ธ.ค. 59 ประธานบริษัทดังกล่าวโพสต์ในเฟซบุ๊ก กลุ่มเลี้ยงกุ้งก้ามแดง ต้องการหาสมาชิก โดยมีแพกเกจการลงทุนเลี้ยงกุ้งก้ามแดง 3 ระดับ คือ 1. ลงทุน 50,000 บาท ได้ลูกกุ้ง 2,000 ตัว หรือพ่อแม่พันธุ์ 72 คู่ เป็นหัวหน้าระดับจังหวัด สามารถหาสมาชิกได้ภายในจังหวัด 2. ลงทุน 30,000 บาท ได้ลูกกุ้ง 1,000 ตัวหรือพ่อแม่พันธุ์ 42 คู่ เป็นหัวหน้าระดับอำเภอ หาสมาชิกได้ในอำเภอนั้นๆ และ 3. ลงทุน 15,000 บาท ได้ลูกกุ้ง 500 ตัว หรือพ่อแม่พันธุ์ 20 คู่ เป็นเพียงสมาชิกธรรมดา ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้รับซื้อกุ้งก้ามแดงกลับคืนทั้งหมด ทุกเดือนๆ ละ 3 ครั้ง ในราคาตามขนาดของกุ้งก้ามแดง กิโลกรัมละ 400 - 600 บาท
นายธนกร เผยอีกว่า สำหรับตนลงทุนไป 50,000 บาท เป็นหัวหน้าระดับจังหวัด และมีค่าใช้จ่ายการขุดบ่อขยายพื้นที่เพิ่มเติม รวมแล้วกว่า 600,000 บาท พร้อมหาสมาชิกในสายของตนแล้วประมาณ 10 คน ซึ่งหลังจากดำเนินการเลี้ยงกุ้งก้ามแดง ตามระยะเวลาที่กำหนด และเตรียมส่งกุ้งก้ามแดงกลับคืน แต่กลับถูกทางบริษัทดังกล่าวอ้างว่ามีปัญหาการทุจริตของเกษตร ภัยธรรมชาติ และบริษัทเบิกเงินไม่ได้บ้าง พร้อมบ่ายเบี่ยงต่างๆ ทำให้ไม่ได้เงินตามสัญญาที่ตกลงไว้ จนสุดท้าย บริษัทไม่ยอมรับซื้อกุ้งก้ามแดง ส่งผลถึงสมาชิกของตนทั้งหมดได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ด้าน นายสามารถ กล่าวว่า ฝากถึงผู้เสียหายทั่วประเทศ รีบติดต่อเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เพราะเชื่อว่ามีเป็นจำนวนมาก และกรณีดังกล่าวอาจมีความผิดเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ แต่เปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวง จึงอยากให้รับเป็นคดีพิเศษ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่รับเอกสารดำเนินการตรวจสอบและสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาให้พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป