MGR Online - ตร.เร่งขยายผลคดีระเบิดส่งทางไปรษณีย์บางเขน ขณะที่ “สิบโท” ผู้ส่งพัสดุยังอยู่ในการควบคุมของกองทัพ ยันรถทะเบียนกงจักรที่ขนอาวุธสงคราม ไม่เกี่ยวข้องกับรถแลนด์ครุยเซอร์และไม่ใช่ของบิ๊กในรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน สตม.เช็กข้อมูลเข้าออก 3 ผู้ต้องหาขนอาวุธที่ตราด
วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่พบระเบิดขว้างสังหาร 8 ลูก และครื่องกระสุนจำนวนหนึ่งที่บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ย่านบางเขน ว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการคุมตัวผู้ต้องหาเพิ่มเติม และในส่วนของทหารยศสิบโทที่ปรากฏชื่อเป็นผู้ส่งและอยู่ในความควบคุมของทหารนั้นยังไม่ได้รับประสานส่งตัวให้ตำรวจ เรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รับผิดชอบงานด้านมั่นคง ได้สั่งการให้ตรวจสอบโดยละเอียด รวมทั้งขยายผลไปตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวต่อไปว่า กรณีที่จับกุม พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ อายุ 40 ปี พร้อมนายจักรพงษ์ ไกรเรือง และนายพิสิษฐ์ เลียง ชาวกัมพูชา พบอาวุธสงครามจำนวนมากซุกซ่อนภายในรถทะเบียนตรากงจักร ที่ประสบอุบัติเหตุตกถนนที่ จ.ตราด เมื่อคืนวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมามีกระแสข่าวว่ารถยนต์ยี่ห้อแลนด์ครุยเซอร์ที่นายพิสิษฐ์ขับนั้นเป็นของผู้บริหารระดับสูงของประเทศกัมพูชา ยืนยันว่าจากการตรวจสอบรถคันดังกล่าวไม่ใช่ของบุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง ตรงกับที่ผู้บริหารระดับสูงของประเทศเพื่อนบ้านได้ออกมาให้ข้อมูล
ด้าน พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม.กล่าวว่า จากตรวจสอบการเดินทางเข้าออกของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองตราด พบว่า พ.อ.อ.ภคิน ไม่พบการเข้าออกเลย ขณะที่นายจักรพงษ์พบเดินทาง 11 ครั้ง ส่วนนายพิสิษฐ์ ชาวกัมพูชา เดินทางเข้าออกบ่อยถึง 231 ครั้ง โดยทุกครั้งเป็นการเข้าออกถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพียงตัวบุคคลเท่านั้น ส่วนสิ่งของหรือสัมภาระจะเป็นหน้าที่ของศุลกากร