MGR Online - ผอ.สำนักพุทธ จ.นครศรีธรรมราช แจงรายได้วัดวังตะวันตกหายไปหลายแสนบาท เร่งสืบส่วนที่เหลือตกไปอยู่ในกระเป๋าใคร รายงานเผยค่าเช่าแผงวัตถุมงคลต่อปีสูงถึง 5.4 ล้านบาท ซ้ำไม่รวมค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์เกือบ 80 หลัง
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแก๊งฆ่าสามเณรปลื้ม หรือศุภโชค เอกเกียรติกุล อายุ 17 ปี ก่อนนำศพมาฝังโบกปูนทับไว้ในวัดวังตะวันตก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นานกว่า 5 เดือนนั้น
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายจรัญ มารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตามระเบียบแล้วเมื่อสิ้นปีทางวัดทุกวัดใน จ.นครศรีธรรมราช จะต้องมีการส่งบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัดมาที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นทางเราจะส่งข้อมูลไปให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต่อไป
นายจรัญกล่าวต่อว่า ในส่วนของรายรับรายจ่ายที่ทางวัดวังตะวันตกส่งมาให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้น เมื่อปี 2559 ทางวัดระบุว่ามีรายรับจำนวน 2,646,992 บาท ส่วนรายจ่ายอยู่ที่ 1,989,724 บาท วัดมีรายได้สุทธิ 657,268 บาท โดยทางวัดแจ้งมาว่ารายได้มาจากค่าที่จอดรถ ค่าแผงเช่าวัตถุมงคล ค่าเช่าอาคาร และเงินที่มาจากตู้บริจาค ส่วนรายจ่ายทางวัดแจ้งว่าเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าจ้างพนักงานขับรถ ค่าน้ำมันรถ และค่าภัตตาหารเจ้าอาวาสและพระชั้นผู้ใหญ่ ทั้งนี้ในส่วนของรายรับรายจ่ายปี 2560 นี้จะมีการส่งข้อมูลมาให้ทางเราในสิ้นปีนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ค่าที่จอดรถ และค่าเช่าแผงวัตถุมงคลที่ทางวัดจัดเก็บได้นั้นเฉลี่ยเป็นเงิน 15,000 บาทต่อวัน ปีหนึ่งทางวัดจะมีรายได้มหาศาลถึง 5,400,000 บาท ยังไม่รวมค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ของวัดที่ให้เอกชนเช่าเกือบ 80 หลังอีกด้วย ทั้งนี้เงินที่หายไปนอกจากจะไปอยู่ในกระเป๋าแก๊งฆ่าสามเณรปลื้มแล้ว ที่เหลือจะตกไปอยู่ในกระเป๋าของใครอีกซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะสืบสวนกันต่อไป