MGR Online - ผบช.น.เผยคืบหน้าคดีโจรบุกเดี่ยวปล้นแบงก์ธนชาต สาขาบางซื่อ พบเบาะแสชัดโอนเงินให้น้องชาย 5 หมื่นบาท แถมลบเลข 2 ตัวบนแผ่นป้ายทะเบียนเพื่ออำพราง ออกหมายจับตามภาพวงจรปิดแล้ว เชื่อยังกบดานอยู่ใน กทม. มั่นใจได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้แน่
จากกรณีคนร้ายสวมหมวกใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า บุกเดี่ยวชักอาวุธปืนขู่พนักงานภายในธนาคารธนชาต สายาย่อยบางซื่อ ถนนเตชะวณิช แขวงและเขตบางซื่อ กทม. สามารถกวาดเงินสดไปจำนวน 87,050 บาท แล้วหลบหนีโดยใช้จักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีฟ้า ทะเบียน วจร 58 กทม. ที่จอดห่างถัดไป 2 คูหา โดยขี่ไปทางสะพานแดง เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ สน.เตาปูน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยมี พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เตาปูน พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมาทางพนักงาสอบสวนได้ดำเนินการขออนุมัติหมายจับบุคคลตามภาพวงจรปิดไปแล้ว และขณะเดียวกันฝ่ายสืบสวนสามารถติดตามจักรยานยนต์ดังกล่าวซึ่งเป็นรถคันที่คนร้ายใช้ลงมือก่อเหตุได้ ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทราบว่าเป็นรถของพ่อผู้ก่อเหตุ โดยในช่วงก่อนที่คนร้ายจะลงมือก่อเหตุได้ใช้สีขาวลบตัวเลข 2 บนแผ่นป้ายทะเบียนเพื่ออำพรางทะเบียนรถ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเป็นทะเบียนเป็นของผู้หญิงรายหนึ่งตามข่าวที่พบก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ภายหลังการติดตามจักรยานยนต์ดังกล่าวพบว่า ที่เลข 2 มีการแต้มสีดำกลับไปในสภาพเดิมเพื่อเป็นการอำพรางการติดตามของเจ้าหน้าที่นั้น ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบลายนิ้วแฝงไว้เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนในคดีแล้ว และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนร้ายพบว่ามีการโอนเงินจำนวน 5 หมื่นบาทไปให้น้องชายของผู้ก่อเหตุ ส่วนตัวของคนร้ายผู้ลงมือก่อเหตุเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบข้อมูลว่ายังคงมีเคลื่อนไหวอยู่ใน กทม. และคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ โดยเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุที่มาลงมือก่อเหตุมาจากความเดือดร้อนเรื่องเงิน แต่ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงจนกว่าจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดี