MGR Online - “ศรีวราห์” ไม่ปลื้ม! พอใจผลสืบสวนสอบสวนคดีระเบิด รพ.พระมงกุฎเกล้า แค่ 20 เปอร์เซ็นต์ นครบาลชี้เป้าผู้ต้องสงสัย 100 กว่าคน ส่วนสันติบาลส่งมา 80-90 คน ไม่ตรงกัน ของใครของมัน ย้ำยังไม่ระบุตัวคนร้ายได้ตามที่ ผบ.ตร.บอก มีแค่ผู้ต้องสงสัย หลักฐานยังไม่มากพอออกหมายจับได้
วันนี้ (29 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคง เป็นประธานการประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยมี พล.ต.อ.เดชา ช่วยบุญชุม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) และคณะพนักงานสอบสวน ชุดสืบสวน ร่วมประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า การประชุมวันนี้ได้แบ่งงานให้ พล.ต.อ.เดชา เป็นหัวหน้างานด้านสอบสวน พล.ต.อ.สุชาติ เป็นหัวหน้างานด้านสืบสวน ไปจัดสรรแบ่งมอบงานทีมงานทั้งหมด แม้การสืบสวนสอบสวนจะมีความคืบหน้าบ้าง แต่ส่วนตัวพอใจผลการสืบสวนสอบสวนเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนภาพสเกตช์ที่เป็นข่าวปรากฏในสื่อมวลชนก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ให้คะแนนเป็น 0 เลย ที่พอใจเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากชุดทำงานด้านต่างๆ ยังตอบคำถาม ข้อสงสัยไม่ชัดเจน ยอมรับว่าพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่ชัดเจนนัก จึงสั่งการให้กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยที่เกี่ยวข้องลงไปดูที่เกิดเหตุที่ รพ.พระมงกุฎเกล้าอีกครั้ง ไปเก็บหลักฐานเพิ่มให้ละเอียดเพื่อหาความเชื่อมโยงของคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมด และความเชื่อมโยงกับคนร้าย รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานหาไทม์ไลน์ลำดับเวลาการเกิดเหตุ ขณะนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจนเท่าที่ควร ยังพยายามตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่ต้องถามว่าได้อะไรบ้างหรือไม่ กล้องรุ่นโบราณก็ไม่รู้จะได้อะไรบ้าง
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ระบุว่ารู้ตัวคนร้ายแล้ว พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ในการสืบสวนสอบสวนของชุดทำงานนี้ยังไม่มี พบเฉพาะผู้ต้องสงสัย ก็มีบ้างที่พอจะทราบ แต่คงเอาข้อมูลที่มีไปขออนุมัติหมายจับไม่ได้ บางทีคนสติไม่ดีมาชี้ว่าคนนั้นคนนี้ทำ ต้องถามว่าเชื่อได้หรือ ศาลจะฟัง ออกหมายจับให้หรือ ต่อให้ใครมาอ้างว่าตัวเองทำก็ยังออกหมายจับไม่ได้ หากไม่มีหลักฐาน ตอนนี้ในส่วนของตัวคนร้ายนั้นยังไม่ชัดเจนพอที่จะออกหมายจับใคร ตำรวจออกหมายจับเองไม่ได้ หรือถ้าออกมาแล้วตัวจะอยู่ให้จับหรือไม่
“ตอนนี้ในทางสืบสวนสอบสวนนั้นมีการรายงานกลุ่มคนต้องสงสัยคนที่น่าจะเกี่ยวข้อง คนที่เป็นไปได้ว่าจะมาวางระเบิด หรือร่วมทีม จำนวนกว่า 200 คน ของนครบาลส่งข้อมูลมา 100 กว่าคน ของสันติบาล 80-90 คน ซึ่งไม่ตรงกันเลย ข้อมูลของใครของมัน นครบาลและสันติบาลต่างก็มีข้อมูลของตัวเอง ส่วนจะเป็นกลุ่มการเมืองหรือไม่ ผมพูดไม่ได้ พูดไปก็แตกแยก เอาเป็นว่าต้องพิสูจน์ทราบ ตัดคนที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องออก แล้วหาคนที่หลักฐานชี้ไปถึง ทุกคนที่ปรากฏชื่อตามข่าวก็เป็นแนวทางการสืบสวน ย้ำว่าการสืบสวนสอบสวนของตำรวจจะยังไม่ชี้ว่ามูลเหตุเป็นเรื่องใด การเมืองหรือไม่ พูดไม่ได้เพราะสืบสวนสวนจากพยานหลักฐานไปหาคนร้าย ตอนนี้ยังไม่กล้าสงสัยใครเลย ยังไม่จับใครเพราะยังไม่มีข้อมูลชัดเจน ขณะนี้ระบุได้เพียงคนร้ายมีเจตนาสร้างความปั่นป่วน ไม่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร” รอง ผบ.ตร.ระบุ
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวถึงจดหมายข่มขู่วางระเบิดว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบที่มาว่าใครส่งมาจากไหน จุดประสงค์ที่ชัดเจน และยังไม่สามารถชี้ได้ว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด รพ.พระมงกุฎเกล้าหรือไม่ ส่วนการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล 3 ราย ก็อยู่ในสำนวน ให้การไม่เป็นประโยชน์ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ กรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีการสอบผู้ต้องสงสัย 40-50 คนนั้นก็เป็นส่วนของกองทัพ ส่วนนี้ตำรวจยังไม่ได้เข้าไปสอบ และทางกองทัพก็ยังไม่ได้ประสานข้อมูลมา หากทางกองทัพ ฝ่ายความมั่นคงเห็นกลุ่มนี้จำเป็นที่ตำรวจต้องเข้าไปสืบสวนสอบสวน ทางกองทัพก็จะมาประสานมาเอง แม้ทางกองทัพจะออกมาชี้ว่ามูลเหตุการก่อเหตุครั้งนี้เป็นเรื่องการเมือง ก็เป็นเพียงข่าว ที่ยังไม่อยู่ในสำนวน ยืนยันว่าไม่เป็นการชี้นำ ชี้นำไม่ได้ ตำรวจยังสืบสวนตามพยานหลักฐาน ยืนยันเรื่องนี้ไม่มีตอ และไม่มีความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีไม่มีชื่อ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.ร่วมในชุดสืบสวนสอบสวน 201 นายนั้นไม่มีนัยขัดแย้งอะไร เป็นความผิดพลาดทางธุรการ ตอนนี้เพิ่มชื่อเข้าไปแล้ว และการที่ ผบช.น.ไม่ร่วมประชุมวันนี้เพราะติดภารกิจของนายกรัฐมนตรี
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่าเหตุระเบิด 3 ครั้งล่าสุดใน กทม.นอกจากมีความเชื่อมโยงกับเหตุระบิดในปี 2550 แล้ว พยานหลักฐานเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดไปป์บอมบ์ในปี 2553 ที่มีผู้เสียชีวิตระเบิดฉีกร่างตัวเอง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุระเบิด ตำรวจนครบาลลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวตรวจสอบแหล่งพำนักของกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่เคยเคลื่อนไหวมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ บก.น.3 บก.น.4 ย่านหนองจอก มีนบุรี คลองสามวา ก็เข้าไปหาข่าว กดดันต่อเนื่อง ส่วนความเกี่ยวข้องของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋นั้น ไม่ขอตอบ อยู่ในสำนวน