MGR Online - “ศานิตย์” แถลงข่าว สน.ตลิ่งชัน รวบ 2 หนุ่มคาสถานีขนส่งสายใต้ หลังมีพิรุธค้นตัวพบระเบิดปลอม อ้างนำมาขู่อริ อีกรายคดีเครือข่ายยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า 42,893 เม็ด ยาไอซ์ 294 กรัม กัญชา 390 กรัม
วันนี้ (26 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ธนวรรธน์ ตาระกา ผกก.สน.ตลิ่งชัน แถลงข่าวจับกุม นายนิพนธ์ หรือตั้ม ทัพศรี อายุ 37 ปี และนายอุ้ม เพ็งทรัพย์ อายุ 34 ปี พร้อมของกลางเป้สะพายหลัง 1 สามารถจับกุมได้ที่สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากขณะที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณด้านหน้าธนาคารออมสินสาขาสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ พบผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 2 คนได้ขับขี่ซ้อนท้าย จักรยานยนต์มาพร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้ และถือกล่องใส่อุปกรณ์ช่างสีดำมาด้วยท่าทีมีพิรุธ เมื่อมาถึงบริเวณหน้าธนาคารดังกล่าวทางตำรวจได้เข้าขอทำการตรวจค้นแต่เจ้าตัวพยายามขัดขืน ก่อนทำการควบคุมตัวไว้ได้
สอบสวนนายนิพนธ์อ้างว่าจะนำระเบิดดังกล่าวขู่แกล้งนายโจ๊กเพื่อนเก่าที่เคยทะเลาะกัน ตนเคยเห็นว่านายโจ๊กอยู่ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ โดยตนเก็บส่วนประกอบต่างๆ มาจากร้านขายของเก่าก่อนจะเปิดยูทูปเพื่อประกอบระเบิดปลอม ยืนยันว่าทำครั้งนี้ครั้งแรก ไม่ได้มีเจตนาจะนำไปป่วนเมือง หรือสร้างสถานการณ์ และไม่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ตนขอโทษที่ทำไปด้วยความคึกคะนอง ไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี และอยากบอกทุกคนว่าตำรวจมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมาก ใครที่คิดจะทำผิดขอให้เลิกเสีย
ด้าน พล.ต.ท.นิตย์กล่าวว่า ขณะนี้ให้ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ตรวจสอบว่านายโจ๊กที่ผู้ต้องหาอ้างถึงนั้นมีตัวตนจริงหรือไม่ เพื่อให้คลายข้อสงสัย นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหามีการเสพยาเสพติดด้วยจึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด
จากการตรวจสอบประวัตินายนิพนธ์ ทัพศรี มีหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 377/2557 ข้อหา พ.ร.บ.ยาเสพติดให้ โทษเสพเมทแอมเฟตามีน, พ.ร.บ.จราจรทางบก และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) และนายอุ้มเคยถูกจับในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ บช.น.ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. แถลงข่าวปิดล้อมตรวจค้นและทำลายเครือข่ายยาเสพติดระหว่างวันที่ 20-25 พ.ค. จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดในภาพรวมทั้งหมด 353 ราย ผู้ต้องหา 359 คน ยาบ้า 42,893 เม็ด ยาไอซ์ 294 กรัม กัญชา 390 กรัม กระทำผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 5 ราย ตรวจยึดอาวุธปืน 8 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 97 นัด จับกุมลักทรัพย์จักรยานยนต์ ผู้ต้องหา 8 ราย จักรยานยนต์ 29 คัน หมายจับอื่นๆ 13 ราย และนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 25 ราย อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการจับกุมยาเสพติดให้ดำเนินการสืบสวนขยายผลทุกรายเพื่อทำลายเครือข่ายและตัดวงจรการกระทำผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติดอย่างเด็ดขาดในพื้นที่กรุงเทพมหานครต่อไป นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดีอื่นๆ เช่น คดีอาวุธปืน 5 ราย จำนวน 8 กระบอก, ลักทรัพย์จักรยานยนต์ 29 คัน ได้ผู้ต้องหา 8 ราย และจับตามหมายจับอื่นๆ อีก 13 ราย
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยกรณีไปร่วมประชุมคลี่คลายระเบิด รพ.พระมงกุฎฯ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวานนี้ว่า ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กำชับให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย การเพิ่มมาตรการต่างๆ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน และให้ทำพื้นสำคัญๆ เป็นพื้นที่เซฟตี้โซน การทำให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย คือ การจัดสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ขอความร่วมมือกับภาคเอกชนเพิ่มกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันเมื่อมีเหตุก็สามารถจับกุมคนรายได้ อยากให้ช่วยกันเพราะประเทศไทยเป็นของทุกคน คนชั่วมีไม่กี่คนต้องช่วยกันกำจัด
