xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายความมั่นคง “จับตา” 3 พลเอกทหารนอกราชการ“ ส-ช-พ”ล้วนล้ำลึกมีศักยภาพ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


คาดระเบิดไปป์บอมบ์ถ่วงเวลานาน 4 ชั่วโมงเพื่อเผ่นหนีออกชายแดนเพื่อนบ้าน/เปิดโปงขบวนการบ่อนเมืองนนท์ “เสี่ย จ.”คนดังยืมยี่ห้อ “เจ้ทิวา”ตบตา-ลดกระแส “แฉ”ยังเหลือบ่อนใหญ่-ของจริงเปิดบริการอยู่ ขาพนันไปไม่ถูกมีรถรับ-ส่งหรือมีไลน์ส่งแผนที่ให้ดู

“เมื่ออาสามารำวงจงรำร้อง อย่าโทษปี่โทษกลองอย่าร้องร่ำ รำไม่ดีมีใครเขาไปทำ ก็อยู่ที่ท่ารำของเราเอง”....ว.แหวนลงยา....สวัสดีครับท่านพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรัก สัปดาห์นี้มาพลกับกระพ้มนาย “บิ๊กเกรียน”เร็วกว่ากำหนดเล็กน้อย เหตุเพราะสถานการณ์บ้านเมืองมันร้อนรุ่ม อีกทั้งโผการแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน”ก็เริ่มส่งกลิ่นเหม็นเฉ่าๆ...ขออนุญาตว่าด้วยเรื่องไอ้เดนนรกแอบวางระเบิดไปป์บอมบ์ที่ใกล้ห้องจ่ายยาชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันที่ 22 พ.ค.2560 ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 3 ปีของการยึดอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.พอดิบพอดี....หลังเกิดเรื่องทุกสำนักข่าวต่างนำเสนอในทุกแง่มุม แต่เท่าที่จับคำพูดของบรรดาบิ๊กๆที่เกี่ยวข้องเช่น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.บอกกับนักข่าวตอนหนึ่งว่า “คงหนีไปแล้ว ไม่มีใครรอให้จับหรอก”...และวันต่อมาจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรหมณกุล รองผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง ระบุว่าระเบิดหน่วงเวลาไว้นานประมาณ 2-4 ชั่วโมง.....ประสาคนผ่านข่าวมาเยอะ จำคดี 2 มือปืนฝรั่งจ่อยิงนายโทนี่ เคนเวย์ นักธุรกิจชาวอังกฤษตายคารถเปอรเช่ ย่านบางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อหลายเดือนก่อนได้หรือไม่....คราวนั้นหลังปฏิบัติการคนร้ายหลบหนีไปยัง จ.ตราด ข้ามแดนผ่านด่าน ตม. มุ่งสู่ประเทศเพื่อนบ้านแบบนักท่องเที่ยวทั่วไป จนผ่านนี้ยังตามจับกันไม่ได้....สมมุติว่าหน่วงเวลาระเบิดไว้ 4 ชั่วโมง คนร้ายต้องเข้ามายังโรงพยาบาลแต่เช้ามืด พอติดตั้งระเบิดไปป์บอมบ์เสร็จช่วงเวลา 3-4 ชั่วโมงซึ่งการจราจรก็ยังเป็นใจ เป็นไปได้ว่าอาจจะใช้เส้นทางหลบหนีระดับสากลคือสนามบินสุวรรณภูมิ หรือชายแดนด้านสระแก้ว อ.อรัญประเทศ ก็ได้...ส.บ.ม. อ่านว่า “สบายมาก”

00000...และก่อนจบจากเรื่องระเบิดกระพ้มฝากข้อคิดไว้ประเด็นเดียวคือบรรดาบิ๊กๆ ทั้งสีเขียว สีกากี หยุดด่ามือระเบิดเลวระยำนั่นได้แล้ว....หันมา “ตามล่าหาความจริง”...ตามล่าตัว ล่าขบวนการมันมาให้ได้....กล้องวงจรปิดหายไปไหน -เสียจริงหรือไม่ “บิ๊กเกรียน”เก็บข่าววงใน ท ทหาร เขากวาดไปแล้วตั้งแต่วันเกิดเรื่อง...ไม่มีเสีย ไม่มีมุมอับมีแต่เห็นกันจะจะแต่มันเผ่นไปแล้วนี่แหละคือปัญหา.....การข่าวทหารเขาเล็งทุกกลุ่ม ไม่เว้น “คนกันเอง”เพราะปฏิบัติการมันหยามเกิน...พล.อ. (ส. )อดีตคนอกหักคือตุ๊กตาตัวแรก พล.อ.(พ. )ทหารเฒ่าจอมดุคือตุ๊กตาตัวที่สอง และตัวสุดท้าย พล.อ.(ช. )อดีต “บิ๊กทหาร”ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นระหว่างคนแดนไกลกับนักรบสีแดง...ระเบิด 4 ลูกในเวลา 2 เดือนทั้งที่หน้ากองสลากกินแบ่ง ธนาคารออมสินสาขาราชดำเนิน หน้าโรงละครแห่งชาติ และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า “บิ๊กแป๊ะ”พูดชัดคนร้ายมันทิ้งนามบัตรให้ดูต่างหน้า 4 ลูกยังจับไม่ได้...ด่าให้ตาย แช่งให้ตายก็ไม่มีประโยชน์ ยังโชคดี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.เจ้าของทฤษฎีลมพัดท่อพีวีซี.ระเบิด ยังไม่คิดทำพิธี “เผาพริกเผาเกลือ” หรือ “นำเข้า”หมอผี “วูดู”มาร่ายเวทมนต์เหมือนอย่างที่เห็นในหนัง

00000.....เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้สักนิด...หาก “ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์ที่ตำรวจไทยทำไม่ได้” กระพ้มขอดักคอด้วยก้างปลาตะเพียนว่าถ้ามีการจับมือระเบิดและขบวนการ จริงอย่างทำ “งุบงิบ” อย่างน้อยต้องเปิดเผยให้สังคมรู้ถึงต้นสายปลายเหตุ...พยาน-หลักฐาน สอดคล้องกันหรือไม่ โปรดอย่างอ้างความมั่นคง หรือความลับเพราะประชาชนต้องการความ “มั่นใจ”...ยกคดีระเบิดสี่แยกราชประสงค์ที่สุดยอดนักสืบพล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น.เป็นผู้พิชิต....สังคมโอเคกับผลงานแม้อาเดม การาดัก ผู้ต้องหาจะมีลูกเล่น “ดิสเครดิต”ทางการมากมายแต่ด้วยความเชื่อมโยงพยาน-หลักฐานที่ค้นได้ในบ้านพักย่านหนองจอก หรือภาพวงจรปิดแม้เราจะไม่อาจเรียกความสูญเสีย ชีวิตเลือดเนื้อกลับมาได้แต่สิ่งที่รัฐได้คืนมาแน่ๆก็คือความมั่นใจ...พูดก็พูดนะที่ผู้นำชอบขู่ว่าถ้ายังยุ่งลุงอยู่ต่อหยุดซะทีเหอะ...ฟังแล้วเหมือนนักเลงช่างกลอะไรก็ไม่รู้...มันเหมือนใช่แต่ไม่ใช่...ถ้า (อยาก)อยู่ต่อ หรือลงสนามเลือกตั้งเพื่อเข้ามาบริหารประเทศ-ชาติอย่างสง่างามสิ่งที่ควรทำ และต้องทำคือให้ปาก-ท้องประชาชนหยุดร้อง (จ๊อกๆๆๆ)...ให้ความมั่นใจกับพวกเขา ไม่ต้องเกรงโจรพลเรือน หรือกลัวโจรในเครื่องแบบ...ไปไหนมาไหนต้องปลอดภัยไร้กังวล-มีกินมีใช้มีอนาคตใครๆก็เลือกท่าน...แต่หากพยายามแล้วมันยังไม่สำเร็จก็ต้องให้คนอื่นเขามาแสดงแทน...แค่นั้นแหละท่านผู้มีอำนาจ

00000.....ยุคตำรวจสุดระส่ำ เห็น “บิ๊กแป๊ะ”นำแม่ทัพ-ขุนศึกสีกากี ออกแถลงการณ์ประณามมือระเบิดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดบอกได้คำเดียวว่า...เห็นใจๆ...แต่ที่ยิ่งกว่าก็คือเมื่อมีนักข่าวกล้าถามว่าเหตุการณ์ระเบิดอย่างซ้ำซากจะต้องมีใครรับผิดชอบ (มั้ย)...คำถามนี้เล่นเอาเงียบกริบ...เหงื่อแตกกันหลายคน...ผ่านไปอึดใจ “บิ๊กแป๊ะ”แอ่นอกขอรับแต่ผู้เดียวไม่โยนผิดให้ลูกน้อง...แม้คดีนี้ไม่รู้จะจบอย่างไร...จับได้..จับไม่ได้...อนาคตในฐานะผู้นำที่ลั่นวาจาไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นแต่สำหรับ “บิ๊กเกรียน”ซึ่งเคยวิพากษ์วิจารณ์ ผบ.ตร.คนนี้หลายครั้งหลายหนยังต้องยอม “ยกนิ้ว”ให้ในภาวการณ์เป็นผู้นำ....ลูกพี่แสดงแล้ว “ลูกน้อง” (ตัวดี) กรุณาสำแดงกันบ้าง...จำกันแม่นนัก-เก่งกันจริงกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง...เจ้านายเกิดวันไหน...วันนี้จะไปไหน...คุณนายชอบกินอะไร....ครบรอบแต่งงานเมื่อไหร่...เมียน้อยให้พาไปไหน....นี่มันเป็นแบบนี้บรรดาลูกน้อง “สันขวาน”ทั้งหลาย แต่ก็น่าแปลกที่เจ้านายบางคน หรือหลายๆคนกลับชอบเพราะมันรู้ใจ ถูกใจ ประจบประแจงเลียแพล่บๆ แสนรู้ไปทุกเรื่องเว้นเรื่องงาน เรื่องทำหน้าที่ของตำรวจ...มิได้พูดเปล่าๆโดยไม่มีหลักฐานแต่ให้ดูจากบัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ...ทุกรุ่น...ทุกยุค...ทุกสมัย...ทุกอำนาจทั้งพลเรือนและทหาร...ไอ้ห่านนักวิ่งเต้นพวกนี้ไม่มีวันล้ม หาย ตาย จากไปกับสังคมตำรวจ

00000.....ล่าสุดโผแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับรองสารวัตร -รองผบก.จำต้องเป็นโรคเลื่อนอย่างไม่มีกำหนด...จากปี 59 มาปี 60 จากเดือน มกราฯมาเดือนกุมภาฯ-เมษา และพฤษภาฯกะว่าจะคลอดวันที่ 22 มาเป็น 25 - 29 กระทั่งล่าสุดเลื่อนต่อไปไม่มีกำหนด !!?? ...เหตุผลสุดยอดคลาสสิคเพราะโผที่แต่ละกองบัญชาการ เสนอมานั้นไม่ตรงกับ “ตั๋ว”ที่ผู้ยิ่งใหญ่เขาฝากเสียเป็นส่วนใหญ่...ขนาดต้องรื้อทิ้ง 80 % ส่วนที่เหลืออีก “ยี่เสียบ”ใช่ว่าจะปลอดภัย อาจมีการขยับปรับเปลี่ยนจากใกล้ถนนใหญ่เป็นเข้าถนนซอย จากถนนซอยไปถนนดินลุกรังอย่างนั้นเป็นต้น...คนละเหี่ยใจหนีไม่พ้นบรรดา “ผู้บัญชาการ”ทุกสำนัก....แล้วสั่งทำไม (วะ)...แต่ที่แปลกแหวกสุดน่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาบอกว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไม่นิ่งนอนใจกับปัญหาวิ่งเต้น ถึงขนาดมอบ ม.44 เพื่อแก้ไขและป้องกันการซื้อขายตำแหน่ง...ว่ากันเป็นคุ้งเป็นแควว่าจะตั้งคณะกรรมการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 260 บ้างล่ะ หรือใช้โมเดลทหาร บ้างล่ะ.....สุดท้ายก็ลามะลิลา พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา...นี่ไงต้นตอของความอ่อนแอ...ต้นตอของความไม่เอาไหน...จุดจบของตำรวจไทย “บิ๊กเกรียน”คงไม่ต้องบอกว่าใครคือคนทำ ....ว่าไปแล้วแท้จริงก็คือคนสีกากีด้วยกันนั่นแหละ...เฮ้อออออ!!??

00000.....นี่ก็แสบใช่ย่อย...บ่อน “เจ้วา”ท้องที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ถูกทหารบุกล้วงตับ ไตตึกแถว 4 ชั้นเลขที่ 465 ใกล้แยกสะพานพระนั่งเกล้า ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี วันเดียวกับมีเหตุระเบิดได้นักพนันชายหญิงจำนวน 109 คน ส่วนของกลางไม่มีเงินสด -ชิปแลกเงินและไพ่มีแต่โต๊ะสำหรับเล่นพนัน แผ่นตารางไฮโล พร้อมตู้ยิงปลา สอบสวนทราบว่าบ่อนพนันแห่งนี้เปิดบริการผีพนันตลอด 24 ชั่วโมง...ระหว่างปฏิบัติการมีนายตำรวจระดับ พ.ต.อ.เข้าขอเคลียร์กับทหาร ขณะที่นักข่าวหญิงจมูกไวสำนักหนึ่งรู้ข่าวจึงเข้าไปปฏิบัติหน้าที่แต่ปรากฏว่าถูกนักเลงประจำบ่อนล็อคตัว พูดจาข่มขู่ต่างๆนานารวมทั้งบังคับให้ลบภาพที่บันทึกไว้ต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่....”บิ๊กเกรียน”ขอถ่ายทอดความรู้สึกน้องนักข่าว(น้ำดี)คนนั้นให้ท่านพ่อแม่พี่น้องได้ทราบโดยทั่วกันดังนี้.......เมื่อช่วงบ่าย 2 ขิงวันที่ 22 พ.ค.2560 ทหาร ปตอ.พัน 5 นำกำลังไปจับบ่อนแถวสะพานพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี หลังได้รับแจ้งว่าเปิดเป็นบ่อนพนันจึงประสานกับตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เข้าไปจับกุม และพบนักพนันกว่า 100 คนและยึดอุปกรณ์การพนันได้บางส่วน ...แต่การจับกุมบ่อนของทหาร-ตร.ในวันดังกล่าว กลับไม่เป็นข่าวครึกโครม เหมือนกับเมื่อคืนที่ทหารไปจับบ่อนแถวลาดพร้าว ....เรื่องนี้อาจจะเงียบไป ถ้าไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเช้าที่ผ่านมา น้องนักข่าวผู้หญิง กับช่างภาพของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งลงพื้นที่ทำข่าวในลักษณะสกู๊ปข่าว ตั้งแต่สัมภาษณ์ ผกก.ท้องที่ และลงพื้นที่จุดที่ทหารเข้าไปจับกุม....แต่เมื่อเข้าไปถึงที่เกิดเหตุ กลับถูกผู้หญิงซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายของกับลูกน้องมาล้อม เจ๊ผู้หญิง ล็อคคอน้องนักข่าวหญิง น้องช่างภาพผู้ชายก็ถูกล็อคคอ และบังคับให้ลบภาพที่มาถ่ายพร้อมกับบอกว่ามาถ่ายทำไม บลาๆ พูดจาข่มขู่....เดชะบุญที่มีทหาร เดินผ่านมาพอดีจึงพาทีมข่าว 2 คนนั้นออกมาจากพื้นที่ หลังจากออกมาจากเหตุการณ์นั้นได้ น้องนักข่าวได้แจ้งไปยัง ผกก.สภ.รัตนธิเบศร์ ท่านก็ลงพื้นที่ ไปตรวจสอบแต่เจ๊ คนที่เคยล็อคคอไม่ยอมออกมาจากตึก ไม่ยอมออกมาโวยวายเหมือนตอนแรก...ไม่รู้มีอะไรต้องปกปิดนักหนากับร้านของเจ๊คนนี้.....

00000.....นั่นคือรายละเอียด และการบรรยายความรู้สึกของนักข่าวหญิงที่เขาเจอเหตุคุกคาม ข่มขู่จากอิทธิพลบ่อนเมืองนนท์....ต่อจากนี้คือรายละเอียดเพิ่มเติมที่ท่านผู้อ่านของกระพ้ม อาจถึงกับอึ้งเมื่อได้รู้ว่าตำรวจเมืองนนท์ (รัตนาธิเบศร์) กับเจ้าของบ่อนคนดังเขาซี้แหง๋ย่ำปึ้กกันจริง แถมยัง “เส้นแข็ง”ทหารจับไม่มีเด้ง-ไม่มีข่าวเล็ดรอดมาสักแอ่ะ....ข้อมูลล่าสุด หรือ “เป้าจริง”ยังมีบ่อนพนันขนาดใหญ่อีกแห่งตั้งระหว่างหมู่บ้านณดล กับซอยเรวดี 68/1 ลักษณะเป็นตึก 3 ชั้นขนาดใหญ่ เปิดเล่นการพนันทุกชนิดตลอด 24 ชั่วโมง....บ่อนแห่งนี้เปิดบริการมานานประมาณ 4 เดือนโดยไม่มีตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เข้าไปจับ ส่วนบ่อนที่ปิดข่าวกันให้แซ่ดนั้นน่าจะเป็นบ่อนลวง...เป็นบ่อนที่จับแล้วยังขาดของกลางสำคัญซึ่งอาจทำให้ผู้ต้องหาใช้เป็นข้อต่อสู้ทางศาลได้....บ่อนพนันซอยเรวดี 68/1 มีลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯและเขตปริมณฑลเข้ามาวัดดวงเข้า-ออกวันละนับพันคน....บริการแบบไม่กลัวเกรงกฎหมายถ้าลูกค้าไปไม่ถูกมีรถไปรับ หรือส่งแผนที่ทางไลน์...แต่ที่สำคัญจริงๆคือไอ้ “คุณโม่ง”อยู่เบื้องหลังเจ้วา ก็คือ “เสี่ย จ.เมืองนนท์”คนดังระดับเจ้าพ่อที่คุ้นเคยกับบรรดาบิ๊กสีกากีเป็นอย่างดี ...กราบเรียนท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ท่านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ท่านแม่ทัพ-นายกองที่คุมภาค 1 ....หูตาสว่างหรือยังว่าตำรวจไทย(บางคน)เขาเก่งกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ และส่วนใหญ่ล้วนเป็นเด็กมีปลอกคอ...บ่อน ซ่อง ของเถื่อน อยู่ไหนกูรู้หมด แต่โจรผู้ร้าย มือระเบิด...อย่ามาถาม...ท่านยังจะปล่อยให้การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ...ยังจะปล่อยให้ตำรวจประเภทเห็นงานเป็นลม - เห็นนมสู้ตายเจริญก้าวหน้าเหยียบหัวตำรวจดีๆอยู่ต่อไปอีกหรือ !!??
กำลังโหลดความคิดเห็น