MGR Online - ป.ป.ส.แจ้งข้อหาเพิ่ม “เบนซ์ เรซซิ่ง” ซื้อขายรถลัมบอร์กินี ฐานสมคบกันฟอกเงินแก๊ง “บอย” ตามมาตรา 6 พ.ร.บ.ยาเสพติด ส่วน “แพท ณปภา”ถูกดำเนินคดีเพียงข้อหาร่วมกันและสมคบฟอกเงิน แต่ยังไม่พบกระทำความผิดฐานช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง และ น.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือแพท นักแสดงชื่อดัง ว่าวานนี้เจ้าหน้าที่ บช.ปส.นำสำนวนคดีข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินซึ่งมีผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย นายณัฐพล หรือบอย นาคคำ, นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง, นายสรรเสริญ หรือแน็ต รสานนท์, น.ส.อังสุพร หรืออุ้ม อินา และ น.ส.ณปภา หรือแพท ตันตระกูล ให้สำนักงานอัยการสูงสุดและขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินคดี
นายศิรินทร์ยาเผยอีกว่า ส่วนความผิดฐานสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดตามมาตรา 6 พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้แจ้งข้อหาต่อนายเบนซ์ เพราะมีหลักฐานชัดเจนเนื่องจากได้รับโอนเงินและสิ่งของมาจากนายบอยหลายครั้ง โดยนำไปผ่อนรถยนต์ลัมบอร์กินีแบบจ่ายเป็นรายเดือน ส่วน น.ส.แพทนั้นข้อมูลยังไม่ถึงเพราะไม่ได้รับทรัพย์สินโดยตรงมาจากนายบอย เพียงแต่ว่านายเบนซ์ สามีโอนเงินต่อมาให้จำนวน 1.9 ล้านบาท และหลายครั้ง ทั้งนี้ หากเป็นการโอนมาให้เเค่ครั้งเดียวจะมีความน่าสงสัยมากกว่า สำหรับการยึดทรัพย์จากนายบอยจำนวน 22 รายการ และกระจายไปยังบุคคลอื่น อาทิ เงิน 1.9 ล้านบาทจาก น.ส.แพท ก็ได้ยึดเงินมาตรวจสอบแล้ว ส่วนนายเบนซ์เป็นรถลัมบอร์กินี และเงินสด ต้องชี้แจงเงินที่มาให้ได้
นายศิรินทร์ยากล่าวอีกว่า หลังจากวานนี้ (22 พ.ค.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 ได้นำสำนวนคดีพร้อมสรุปความเห็นสมควรฟ้องในความผิดข้อหาฟอกเงินและสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินนั้น แต่ในส่วนของ ป.ป.ส.เห็นด้วยตามที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเสนอมา ส่วนความผิดอื่นตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด แบ่งเป็นความผิด 3 เรื่อง คือ สมคบกันกระทำความผิด จากการพิจารณาจากพยานหลักฐาน พบว่าทั้งเบนซ์ และแพท ไม่ได้มีพฤติกรรมถึงขั้นร่วมกันกระทำความผิด ประเด็นนี้จึงตกไป
สำหรับประเด็นที่ 2 สนับสนุนช่วยเหลือการกระทำช่วยปกปิด ในส่วนของเบนซ์นั้นชัดเจน เพราะจากหลักฐาน พฤติกรรมที่เป็นข่าวถือว่าประจักษ์ ทั้งการรับเงินจากนายบอยและนำไปแปลงเป็นสินทรัพย์ จึงเห็นควรให้ ปส.แจ้งดำเนินการเพิ่มเติม ส่วนแพทจากกรณีรับเงินจากเบนซ์มามูลค่า 1.9 ล้านบาทนั้น พิจารณาแล้วว่ายังไม่เข้าข่าย เพราะเงินจำนวนนี้ไม่ได้โอนมาให้ก้อนเดียว หากเป็นดังนี้จึงน่าสงสัยในพฤติกรรม แต่เป็นการโอนมาให้รวมกันกว่า 10 ครั้ง และเป็นช่วงที่เพิ่งแต่งงานมีบุตร เป็นไปได้ที่สามีจะส่งเงินให้ภรรยา จึงเห็นควรว่าแพทไม่สมควรฟ้องในความผิดสนับสนุนช่วยเหลือ
ส่วนประเด็นที่ 3 คือ การริบทรัพย์ของแพท ได้ส่งโอนมาให้ ป.ป.ส.หมดแล้ว ส่วนของเบนซ์ได้อายัดไว้ทั้งรถยนต์หรู และมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ซึ่งมีหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้เงินจากนายบอย โดยจะรอให้เบนซ์มาชี้แจงว่าได้มาด้วยความสุจริตจริงหรือไม่