MGR Online - ผบ.ตร. ระดมขุนพลพลิกแผ่นดินตามล่ามือระเบิด เชื่อกลุ่มเดียวกับป่วนหน้ากองสลากกินแบ่ง และ โรงละครแห่งชาติ ส่วนสาเหตุให้น้ำหนักการเมือง และสถานการณ์ใต้ “บิ๊กแป๊ะ” ประกาศความรับผิดชอบไม่โยนให้ลูกน้อง สุดทนประณามคนทำอำมหิตเกินหากฟ้าดินมีจริงขอให้จับได้ แต่ยอมรับลองกล้าขนาดนี้คงเผ่นไปแล้ว เผย ฝ่ายความมั่นคงทหารเดินหน้าเต็มสูบ ขนาดกล้องวงจรปิดยึดตรวจสอบเอง เล่นเอาฝ่ายสืบสวนตำรวจไปไม่เป็น
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 16.40 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ด้านความมั่นคง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พล.ต.ต.ธวัธชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐก. พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการงานตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี ฯลฯ และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อติดตามเหตุระเบิดบริเวณห้อง “วงษ์สุวรรณ” ห้องรับรองนายทหารสัญญาบัตร ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.พระมงกุฎเกล้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยใช้เวลาประมาณกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า วันนี้ได้สั่งการแบ่งหน้าที่ให้กับทุกหน่วยไปช่วยกันคลี่คลายคดีระเบิด ตั้งแต่เหตุระเบิดหน้ากองสลากแห่งเก่า ถนนราชดำเนิน เมื่อ 5 เม.ย. หน้าโรงละครแห่งชาติ เมื่อ 15 พ.ค. และที่ รพ.พระมงกุฎ วันนี้ และตั้งคณะกรรมการระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ บช.น. บช.ก. กองบังคับปราบปราม โดยนำ 3 คดีที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เหตุระเบิดที่หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งเก่า เป็นต้นมา มารวมกัน เนื่องจากการตรวจสอบโดยหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี ให้ข้อมูลว่า การก่อเหตุทั้ง 3 ครั้ง เป็นการกระทำของกลุ่มเดียวกัน คือ กลุ่มไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับวันครบรอบ 3 ปี รัฐประหารหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่เมื่อเกิดเหตุตำรวจต้องรับผิดชอบคลี่คลายคดี
“แนวทางการสืบสวนยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ให้น้ำหนักทั้งเรื่องการเมือง และการก่อเหตุของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ที่ยังพยายามมาก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจมีฐานข้อมูลการประกอบเฉพาะบุคคล ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงการประกอบระเบิด ส่วนจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้ายจาก จังหวัดภาคใต้ที่จับกุมได้ แล้ววางแผนก่อเหตุ เมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา หรือไม่ นั้นยังไม่สามารถระบุได้ ในทางการข่าวพบว่า มีการแจ้งเตือน แต่เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพฯเป็นพื้นที่กว้าง จึงไม่ทราบจุดก่อเหตุที่ชัดเจนของคนร้าย ซึ่งหลังจากนี้ จะต้องมีการเพิ่มมาตรการความเข้มข้นในการรักษาความปลอดภัยทุกพื้นที่ที่มีคนสัญจรไปมาจำนวนมาก และนำบทเรียนที่ได้จากเหตุระเบิดมาป้องกันการก่อเหตุซ้ำ ขอประณามคนก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นคนจิตใจอำมหิต และหากฟ้าดินมีจริงขอให้จับได้ การทำในโรงพยาบาลแบบนี้ เป็นการซ้ำเติมคนไข้ ขัดหลักมนุษยธรรม” ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า เหตุระเบิด 2 ครั้งแรก จากพยานหลักฐานชัดเจนว่าคนร้ายไม่ได้มุ่งหวังเอาชีวิต ไม่ก่อให้เกิดอันตรายเท่าใดนัก แต่ครั้งนี้มีการใช้สะเก็ดระเบิดใส่ลงไปจำนวนมาก หากโดนเต็มๆ ก็เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จะบอกว่ามุ่งหวังเอาชีวิตก็ได้ จากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ พบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่อง แบบไปป์บอมบ์ พบว่า ทำระเบิดด้วยท่อพีวีซีแล้วใส่ไปในแจกันอีกที ก่อนวางระเบิด ทั้งนี้ กำลังตรวจสอบสารระเบิดที่ใช้ว่าปริมาณอานุภาพทำลายล้างมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม จากซิกเนเจอร์ ลักษณะเฉพาะการทำระเบิดนั้น ตอนนี้ค่อนข้างชัดเจน ว่า เป็นฝีมือของคนเดียวทำ เราเห็นซิกเนเจอร์การประกอบที่ชัดเจน เราดูจากการตัด การต่อ การเชื่อมต่างๆ ทั้ง 3 จุด น่าจะเป็นการประกอบระเบิดโดยคนคนเดียวกัน ซึ่งกำลังตรวจสอบว่า ซิกเนเจอร์เคยก่อเหตุที่ไหน เมื่อไหร่บ้าง แต่ก็ไม่ขอเปิดเผย ขอเจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะก่อน สำหรับการหาตัวคนร้ายเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัว แต่ยอมรับว่า กล้องบางตัวใช้การไม่ได้ แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าพบผู้ต้องสงสัยหรือไม่ ขอไม่บอกแล้วกัน ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะขออนุมัติหมายจับใคร แต่ทำขนาดนี้ 3 ครั้งแล้ว ต้องจับให้ได้ จับแล้วต้องมาถามว่าทำเพราะอะไร หากฟ้าดินมีจริง เข้าข้างตำรวจก็ต้องจับได้ สำหรับการข่าวแจ้งเตือนนั้นมีมาตลอด ในโซเชียลก็มีการแจ้งเตือน เฝ้าระวังการอย่างเข้มข้นมาตลอดอยู่แล้ว อันนี้ก็ไม่เข้าใจคนเขาไปรักษา ก็ไปก่อเหตุ ไปซ้ำเติม มันเกินไป ตนไม่ได้ท้าทายนะ แต่ทำแบบนี้มันขัดหลักมนุษยธรรม
ผบ.ตร. กล่าวว่า ตำรวจพยายามสืบสวนจับกุมคนร้ายให้ได้ หาตัวให้ได้ แต่เชื่อว่าคงหนีไปแล้ว ไม่มีใครรออยู่หรอก ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยมาก ท่านห่วงประชาชนมากกว่า กับการก่อเหตุโดยไม่สนใจว่ามีลูกเด็กเล็กแดง คนแก่ คนเจ็บแบบนี้ สั่งการให้เพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยในทุกสถานที่สำคัญ ซึ่งทางเลขา คสช. ประชุมสั่งการทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการดูแลแล้ว ทั้งนี้ นายกฯและ รองนายกฯ ไม่ได้ตำหนิเจ้าหน้าที่ เพราะทราบอยู่แล้วว่าทหารและตำรวจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันเหตุ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโรงพยาบาลตำรวจก็ต้องวางกำลังดูแลความปลอดภัย เพิ่มความเข้มวางมาตรการเข้าออก รพ.ตร.
เมื่อถามว่า การก่อเหตุที่ห้องวงษ์สุวรรณ ส่งนัยยะอะไรหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จับคนร้ายได้แล้ว จะถามให้ว่าทำไม แต่ห้องนั้นใครเข้าออกก็ได้ ไม่ต้องเป็นวีไอพีก็ได้ เป็นบริเวณห้องรับยา ประชาชนภายนอกสามารถเข้าออกได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่อง ต้องมีผู้รับผิดชอบหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า “ผมไง” เรื่องนี้ไม่โทษลูกน้อง ตนรับผิดชอบเองในฐานะหัวหน้าหน่วย
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนของตำรวจปูพรมลงพื้นที่หาข่าวกันอย่างจ้าละหวั่น รวมทั้งมีการติดตามกล้องโทรทัศน์วงจรปิดทุกตัวภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แต่ปรากฏว่า ฝ่ายความมั่นคงทหารได้จัดการไปก่อนหน้าแล้ว จึงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เนื่องจากหลักฐานสำคัญ คือ ภาพจากโทรทัศน์วงจรปิดตกอยู่ในการดูแลของกองทัพไปแล้ว อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ความไว้เนื้อเชื่อใจต่อฝ่ายตำรวจ หรือประเมินขีดความสามารถแล้วไม่อาจมั่นใจได้ ฝ่ายความมั่นคงทหารจึงเข้าควบคุมสถานการณ์เบื้องต้นไว้ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับชิ้นส่วนวัตถุระเบิดที่หน้าโรงละครแห่งชาติ และหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่า รวมทั้งหน้าธนาคารออมสิน สาขาราชดำเนิน นั้นประกอบด้วย วัสดุห่อหุ้มเป็นท่อพีวีซี ดินระเบิดแรงต่ำ ตั้งเวลาด้วย IC TIMER ไม่มีสะเก็ดระเบิด คาดว่า ไม่หวังผลต่อชีวิต อานุภาพทำให้ป้ายโฆษณากับท่อพีวีซีแตกเสียหาย ขณะที่ระเบิดไปป์บอมบ์ที่ใช้ในโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ พบถ่านไฟฉายขนาด 1.5 โวลต์ 8 ก้อน จำนวน 1 ชุด สวิตช์แบบสไลด์ เศษตะปูขนาด 1 นิ้วแบบหัวตัดจำนวนมาก ตัว IC ไม่ทราบขนาด 1 ชุด เศษท่อพีวีซี จำนวนหนึ่ง