MGR Online - ตำรวจ 191 รวบชาวไทย - กัมพูชา รวมหัวตั้งแก๊งกรีดกระเป๋าย่านประตูน้ำ ผงะได้ครั้งละ 7 - 8 หมื่นบาท ลงมือมาแล้วร่วม 40 ครั้ง อ้างเรียนรู้วิธีกรีดกระเป๋ามาจากเพื่อนชาวเวียดนาม
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ สน.พญาไท พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 (ผบก.สปพ.) พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. พร้อมชุดสืบสวน สน.พญาไท ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งกรีดกระเป๋าชาวไทย 2 ราย และกัมพูชา 3 ราย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ชุดสืบสวน สน.พญาไท พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนหาข่าว ได้รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงสอบปากคำผู้เสียหาย วิเคราะห์พฤติกรรมคนร้าย จึงทราบว่า กลุ่มคนร้ายเป็นชาวกัมพูชา และชาวไทย โดยการลงมือแต่ละครั้ง มีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำงาน ชุดสืบสวนจึงได้จัดกำลังเข้าสังเกตการณ์ตามจุดเสี่ยงจุดล่อแหลมที่มักเกิดเหตุเป็นประจำ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม เวลาประมาณ 07.20 น. สามารถจับกุม น.ส.ดวง หรือ ดา ธิดา (Miss duong thida) อายุ 35 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นโน้ต 5 จำนวน 1 เครื่อง ได้บริเวณตลาดผ้าประตูน้ำ ข้างตึกใบหยก แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ หลังจากนั้น ได้มีการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 4 ราย ประกอบด้วย นายฐเดช หรือ ต่อ นิธิธัชชัย อายุ 45 ปี สัญชาติไทย, น.ส.เม (Miss houn koman) อายุ 28 ปี สัญชาติกัมพูชา, น.ส.อ้อย อายุ 32 ปี สัญชาติกัมพูชา โดยชุดสืบสวนสามารถจับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 2029/54 นิวห้าใหม่ อพาร์ทเม้นต์ ซ.เจริญกรุง 77 แขวงวัดพระยาไกร เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ส่วน นายสมปอง หรือ ดำ บุตรี อายุ 70 ปี สัญชาติไทย เจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่ตลาดผ้าประตูน้ำ ข้างตึกใบหยก แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พร้อมของกลางเป็นเงินสดจำนวนกว่า 7 หมื่นบาท โทรศัพท์ 8 เครื่อง ใบเสร็จรับเงินจำนวน 7 ใบ ร้านจิวเวลรี่แห่งหนึ่งในประเทศกัมพูชา และเครื่องประดับทองชุบจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติการณ์นั้น นายฐเดช หรือ ต่อ จะทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางและหาจุดที่พัก ตลอดจนนำทรัพย์สินที่ได้ไปจำหน่าย จากนั้น น.ส.เม และ น.ส.อ้อย จะทำให้หน้าที่เป็นคนเดินบังไม่ให้คนทั่วไปสังเกตเห็นว่า น.ส.ดวง กำลังกรีดและล้วงกระเป๋าผู้เสียหาย หลังจากนั้น รับทรัพย์สินต่อจาก น.ส.ดวง แล้วเดินทางออกจากจุดก่อเหตุ ส่วน นายสมปอง จะเป็นผู้รับเงินจากแก๊งดังกล่าวและคอยดูต้นทาง เบื้องต้นพนักสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ นอกจากนี้ ยังต้องดำเนินการฐานฟอกเงินด้วย บ้าน ที่ดิน จะต้องยึด ส่วน น.ส.อ้อย ถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม ฐานหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งปัญหาเหล่านี้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ผู้ต้องหาจะเดินทางมาเช้าเย็นกลับ ระหว่างประเทศไทย - กัมพูชา ได้เงินวันละหมื่นกว่าบาท หนึ่งอาทิตย์ทำมาประมาณ 2 ครั้ง ฝากเตือนมิจฉาชีพที่มาลงมือให้หยุด ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกับคนเหล่านี้
ด้าน น.ส.ดวง ยอมรับว่า กรีดกระเป๋ามาประมาณ 5 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ จะอาศัยอยู่ตามชายแดนไทย - กัมพูชา และลงมือกรีดกระเป๋าในบริเวณชายแดน ก่อนจะย้ายเข้ามาอยู่ที่ประตูน้ำ ประมาณ 2 ปี เข้ามาอยู่เพื่อกรีดกระเป๋าโดยเฉพาะ โดยเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิงต่างชาติ ใช้กระเป๋าสะพายข้าง และกระเป๋าบาง ง่ายต่อการกรีด และรอจังหวะ บางครั้งกรีดได้ทรัพย์สินบ้าง ไม่ได้บ้าง เคยกรีดแล้วได้เงินมากสุด 7 - 8 หมื่นบาท เคยลงมือมาประมาณ 30 - 40 ครั้ง ทราบวิธีการกรีดกระเป๋ามาจากเพื่อนชาวเวียดนาม
ส่วน นายสมปอง กล่าวว่า ตนทำมาประมาณ 2 ปี ทำหน้าที่เป็นคนดูต้นทาง เมื่อ น.ส.ดวง ก่อเหตุเสร็จ แล้วจะแบ่งเงินส่วนแบ่งให้ครั้งละประมาณ 500 บาท แต่ไม่เคยถูกจับได้ ครั้งนี้ถูกจับเป็นครั้งแรก ปกติจะรับจ้างยกเสื้อผ้าที่ประตูน้ำ พร้อมปฏิเสธไม่ได้อ้างว่าเคลียร์กับตำรวจได้