MGR Online - พ่อแม่อดีต ผช.พยาบาลสาวเสียชีวิตปริศนาคาห้องพักบนเกาะสมุยปี 55 ร้อง อสส.สั่งฟ้องตำรวจเจ้าของสำนวนตาม ม.157 ทำสำนวนไม่รัดกุม โดยได้นำหนังสือ ป.ป.ท.ชี้มูลความผิดมาประกอบการฟ้อง
วันนี้(19 พ.ค.)ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) นายชัยโย เมลกุล และนางนิตยา สาเล๊ะ ชาว อ.ท่าแพ จ.สตูล บิดาและมารดาของ น.ส.ณัฐนรี เมลกุล อดีตผู้ช่วยพยาบาลสาวที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำภายในบ้านพัก อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2555 เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ขอให้มีการฟ้องคดีอาญาต่อพนักงานสอบสวนในคดีนี้ด้วย โดยมีนายพันธุ์โชติ บุญศิริ อัยการพิเศษฝ่ายสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้รับหนังสือ
นางนิตยา มารดา น.ส.ณัฐนรี กล่าวว่า วันนี้ได้นำหนังสือที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ชี้มูลความผิด ร.ต.อ.ศุภนัฐ เอ่งย่อง พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พนักงานสอบสวนในที่เกิดเหตุ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 โดยระบุว่า น.ส.ณัฐนรีผูกคอตายเองในห้องน้ำ แต่ตำแหน่งที่พบศพคือในห้องครัว อีกทั้งพนักงานสอบสวนระบุในบันทึกประจำวันว่าได้ร่วมชันสูตรกับแพทย์ในที่เกิดเหตุแล้ว แต่ความจริงไม่มีแพทย์เดินทางไปร่วมชันสูตรด้วย
นางนิตยากล่าวต่อไปว่า ต่อมาแพทย์ตรวจภายหลังพบว่าลูกสาวมีบาดแผลตามร่างกาย มีรอยฟกช้ำที่เบ้าตา ตามร่างกาย โดยเฉพาะจุดสำคัญบริเวณลำคอที่มีบาดแผลกว้าง 3 เซนติเมตร และแพทย์ระบุว่าลูกสาวไม่ได้ตายจากผ้าที่ผูกคอ เพราะผ้ามีขนาดใหญ่กว่าบาดแผลที่บริเวณลำคอ นอกจากนี้ ที่เกิดเหตุยังมีสภาพข้าวของกระจัดกระจาย ภายหลังตนจึงไปร้องเรียนกับหน่วยงานรัฐต่างๆ กระทั่งสามารถดำเนินคดีทางกฎหมายต่อนายมนัส เพชรพงศ์ อดีตแฟนหนุ่มของ น.ส.ณัฐนรี โดยอัยการจังหวัดเกาะสมุยได้สั่งฟ้องนายมนัสในข้อหาทำร้ายร่างกาย และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุก 6 เดือนไม่รอลงอาญา ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2559 แต่พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อหาฆ่าคนตาย ในส่วนนี้จะได้ปรึกษาทนายความเพื่อใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องด้วยตนเองต่อไป ส่วนสาเหตุที่มายื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เนื่องจากสำนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุยไม่ได้สั่งฟ้องคดีอาญาต่อ ร.ต.อ.ศุภนัฐ พนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้ตามมาตรา 157 ซึ่งขั้นตอนต้องให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่
“ขณะนี้ได้ให้ทนายความพิจารณาร่างหนังสือเพื่อจะยื่นฟ้องอดีตแฟนลูกสาวในข้อหาฆ่าคนตาย เนื่องจากได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ไว้แล้ว ซึ่งในวันเกิดเหตุ น.ส.ณัฐนรีกลับไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้องพัก เตรียมย้ายไปทำงานใหม่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระหว่างนั้นได้โทรศัพท์มาคุย ได้ยินเสียง น.ส.ณัฐนรีร้องว่าอย่าแย่งโทรศัพท์ ก่อนที่สายโทรศัพท์จะหลุดไป จากนั้นจึงมีคนโทร.มาแจ้งว่า น.ส.ณัฐนรีเสียชีวิตแล้ว และที่ผ่านมา น.ส.ณัฐนรีมักจะคุยให้ฟังว่าถูกทำร้ายอยู่เป็นประจำ”
ด้านนายพันธุ์โชติ อัยการพิเศษฝ่ายสอบสวน กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำหนังสือขอความเป็นธรรมเสนอให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาต่อไป ซึ่งจะต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงและข้อมูลให้ครบถ้วน ซึ่งสามารถสั่งการหรือตรวจสอบข้อเท็จจริงจากพนักงานอัยการที่รับผิดชอบได้อยู่แล้ว คงจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
