xs
xsm
sm
md
lg

อีกแล้ว! โจรย่องเงียบงัดบ้านกลางดึก เอากุญแจไขฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดง หนีลอยนวล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
คนร้ายย่องงัดบ้านสาวใหญ่ยามวิกาล ขนทรัพย์สินของมีค่าไปจำนวนหนึ่ง พร้อมกุญแจรถขับฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงของเจ้าของบ้านออกไป ตำรวจกำลังแกะเส้นทางหลบหนีจากกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายดำเนินคดีต่อไป

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 60 นางสาวอารีย์ การปลื้มจิตต์ อายุ 48 ปี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ศุภชัย ศรีสุระ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ หลังจอดรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน ก-5081 ปทุมธานี (ป้ายแดง) ไว้ภายในบ้านเลขที่ 121 ซอยรังสิต-นครนายก 22 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เกิดหายไปเมื่อเช้ามืดเวลาประมาณ 05.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง

ในที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน เขต 1 ได้เข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้ขับออกจากบ้านไปทางถนนเลียบคลองหนึ่ง สะพานแดง เมื่อเวลา 04.41 น. โดยกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครรังสิต จับภาพเอาไว้ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่าง ติดตาม กล้องวงจรปิดในเส้นทางต่างๆและใกล้เคียง เพื่อเร่งติดตามหาตัวคนร้ายอยู่

ทางด้าน นางอารีย์ เจ้าของรถ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ตนเองกำลังทำธุระ และมานั่งดื่มกาแฟอยู่ภายในบ้าน จากนั้นก็มองไปที่บริเวณหน้าบ้าน ก็ไม่พบรถฟอร์จูนเนอร์แล้ว แถมคนร้ายได้ใช้ไม้ขนไก่ขัดกับประตูบ้านไว้ ตนเองจึงได้ออกทางหน้าต่าง จากนั้นก็มาดูที่ประตูหน้าบ้าน พบว่า ถูกคนร้ายตัดสายยู และนำรถฟอร์จูนเนอร์ออกไป จากนั้นตนเองก็เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านก็พบว่าข้าวของถูกรื้อกระจาย คนร้ายหยิบกระเป๋าสตางค์มีเงินสดจำนวนหนึ่ง Notebook 1 เครื่อง และทรัพย์สินภายในบ้านอีกจำนวนหนึ่ง ไปด้วย

ส่วนกุญแจรถฟอร์จูนเนอร์ ที่หายไปนั้น ตนเองได้วางกุญแจไว้ที่โต๊ะ ภายในบ้านเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าคนร้าย จะมาขโมยของภายในบ้านและรถยนต์ของตนเอง ซึ่งตนเองได้ออกมาประมาณ 2 เดือนเศษ ที่ยังเป็นป้ายแดงอยู่ ทั้งๆ ที่ตนก็ทราบข่าวจากทางทีวีและสื่อต่างๆ ว่า มีรถฟอร์จูนเนอร์หายเป็นประจำ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นรถที่บ้านของตนเอง

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน เขต 1 (ศพฐ.1) และให้ชุดสืบสวนออกหาข่าวและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางดังกล่าวเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น