xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กปู” ระบุชนิดระเบิดหน้าโรงละครฯ ใช้ในสามจังหวัดชายแดนใต้ “แค่พวกป่วนเมือง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
MGR Online - “พล.ต.อ.ศรีวราห์” รอง ผบ.ตร.เผยกลุ่มคนร้ายวางระเบิดแค่พวกป่วนเมือง พบอานุภาพน้อยกว่าไปป์บอมบ์ ส่วนใหญ่พบใช้ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ชี้ลักษณะการประกอบคล้ายชนิดเดียวกับเหตุหน้ากองสลากเก่า

วันนี้ (17 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีระเบิดที่บริเวณหน้าโรงละครแห่งชาติ บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เลขที่ 2 ถนนราชินี แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม.เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้หญิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย ว่าจากการตรวจสอบวัตถุที่พบในบริเวณที่เกิดเหตุ มีผลพิสูจน์ออกมาแล้วว่าเป็นวัตถุระเบิดจริง โดยเป็นชนิดโปแตสเซียมคลอเรตซึ่งมีไอซีไทเมอร์จุดระเบิดคล้ายกับที่เคยถูกใช้ก่อเหตุบริเวณถังขยะด้านหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดิม ถนนราชดำเนินกลาง ก่อนหน้านี้

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากยังต้องรอพิสูจน์วิธีการประกอบระเบิดจากรอยบัดกรีเชื่อมกับสายไฟ แต่ก็พบว่ามีส่วนใกล้เคียงกันมาก ทั้งนี้ ทางตำรวจ สน.ชนะสงคราม ท้องที่เกิดเหตุได้ทำบันทึกลงรับเป็นคดีอาญา ที่ 1176 /60 โดยลงประจำวันไว้แล้ว ส่วนการสืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุก็มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยไล่กล้องไปในพื้นที่โดยรอบซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี ได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เพื่อให้เกิดความแน่ชัด โดยคาดว่าไม่เกิน 3 วันน่าจะมีความชัดเจนในส่วนของชนิดและขนาดของระเบิด สำหรับวัตถุประสงค์ในการก่อเหตุตนยังเชื่อว่าเป็นเพียงการก่อกวนเท่านั้น เพราะชนิดของระเบิดที่ใช้มีอานุภาพน้อยกว่าไปป์บอมบ์มาก หรือจากที่เคยพบก่อนหน้านี้ในช่วงการชุมนุมทางการเมือง โดยใช้ดินระเบิดที่น้อยจนไม่พบกลิ่นและควัน เป็นชนิดที่ใช้ดินระเบิดแรงกว่าประทัดเล็กน้อย

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวด้วยว่า ในเบื้องต้นคนร้ายมีการประกอบระเบิดมาจากที่อื่นแล้วนำมาก่อเหตุ โดยระเบิดลักกษณะดังกล่าวเคยพบถูกว่านำมาใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงตั้งแต่ปี 2550-2551 ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้มีการสั่งปรับแผนใหม่ในการดูแลความสงบเรียบร้อย โดยจะมีสายตรวจออกตรวจตราบ่อยขึ้น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบว่ากล้องวงจรปิดที่มีอยู่ว่าเพียงพอหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น