MGR Online - “เบนซ์ เรซซิ่ง” พร้อมทนายเดินทางมารายงานตัวต่อศาลอาญา หลังครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 7 ยืนยันไม่หลบ ขอต่อสู้คดีในชั้นศาล นัดอีกครั้ง 29 พ.ค.
วันนี้ (17 พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 08.40 น. นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง นักแข่งรถชื่อดัง อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมสมคบฟอกเงินกับนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ เครือข่ายนักค้ายาเสพติดไซซะนะ เดินทางมาพร้อมกับนายสิทธิโชค ตรีเนตร ทนายความ เพื่อรายงานตัวต่อศาลตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวระหว่างการฝากขัง ซึ่งขณะนี้เข้าสู่การฝากขังครั้งที่ 7 แล้วตั้งแต่วันที่ 17-28 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นการฝากขังผัดสุดท้ายแล้วตามกฎหมาย
โดยวันนี้ นายอัครกิตติ์ หรือเบนซ์ เรซซิ่ง เดินทางมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ภายหลังใช้เวลารายงานตัวประมาณ 10 นาที นายสิทธิโชค ทนายความกล่าวว่า วันนี้เป็นการเดินทางมารายงานตัวระหว่างฝากขังซึ่งครบการฝากขังครั้งที่ 7 แล้ว โดยศาลกำหนดนัดให้นายอัครกิตติ์มารายงานตัวอีกครั้งเช้าวันที่ 29 พ.ค.นี้
นายสิทธิโชคกล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวน ปส.แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมด้วยว่า เดิมพนักงานสอบสวนแจ้งให้ไปพบเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่ น.ส.ณปภา หรือแพท ตันตระกูล ภรรยาของเบนซ์ เข้าไปพบพนักงานสอบสวนเข้าพบเช่นกัน เราจึงได้ขอเลื่อนวันเข้าพบเป็นวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา และเราก็ได้เข้าพบตามนัด ขณะที่ข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ที่นำมาสู่ข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดนั้นก็เป็นข้อเท็จจริงเดียวกันกับข้อเท็จจริงที่แจ้งข้อกล่าวหานายอัครกิตติ์สมคบฟอกเงิน แต่ข้อหาตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดนั้นมีอัตราโทษสูงกว่าข้อหาฟอกเงินมาก หลังจากเราได้รับหมายเรียกแล้วนายอัครกิตติ์ก็เข้าพบพนักงานสอบสวนและวันนี้ก็ได้เข้ารายงานตัวต่อศาลตามปกติโดยเป็นเครื่องยืนยันว่าเราไม่มีเจตนาหลบหนี
สำหรับขั้นตอนต่อไปจากนี้ พนักงานสอบสวน ปส.จะต้องมายื่นคำร้องต่อศาลแจ้งให้ทราบว่าระหว่างการฝากขังครั้งที่ 6 นั้นได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อนายอัครกิตติ์ ดังนั้น พนักงานสอบสวนและอัยการก็จะมีระยะเวลาในการพิจารณาสำนวน 12 วันฟ้องให้ทันภายในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ซึ่งในชั้นอัยการเราจะไม่ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม เนื่องจากการเข้าพบพนักงานสอบสวน ปส.ตั้งแต่ช่วงแรกเราได้ยื่นเอกสารที่มีทั้งหมดไปแล้วพร้อมกับพูดข้อเท็จจริง ดังนั้น แม้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเราก็จะไม่ยื่นอะไรเพิ่มอีก ซึ่งก่อนที่นายอัครกิตติ์จะถูกแจ้งข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวน ปส.ได้เรียกสอบพยานบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวนายอัครกิตติ์ ทั้งญาติ ลูกน้อง และบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกว่า 10 ปากมาสอบสวนโดยที่ทางเราไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับการเรียกบุคคลต่างๆ เข้าพบ และพนักงานสอบสวนเองก็ไม่เคยแจ้งว่าเราเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับพยานหลักฐานหรือพยานบุคคลต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการสอบสวน ดังนั้น แสดงให้เห็นว่าเจตนาของนายอัครกิตติ์ว่าแม้จะถูกแจ้งข้อหาในอัตราโทษสูงแต่ก็พร้อมที่จะเดินเข้าสู่กระบวนการรับทราบข้อกล่าวหาทันทีไม่มีการหลบเลี่ยงหรือหลีกหนี
ทนายความเบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวอีกว่า ในส่วนทนายความของแพท ณปภานั้น เรายังไม่ได้มีการพูดคุยกันอะไรกันที่เกี่ยวกับแนวทางคดี เพราะทุกอย่างกระชั้นชิด รวดเร็วมาก ในส่วนของแพท ณปภาเองก็โดนหมายเรียกและถูกแจ้งข้อกล่าวหาโดยไม่ได้ตั้งตัวเช่นกัน เบื้องต้นที่ผ่านมาเราจึงแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการไปพบพนักงานสอบสวน ปส.ทุกครั้งก่อนส่วนข้อต่อสู้ทางคดีของนายอัครกิติ์ และแพท ณปภา จะแตกต่างกันหรือไม่นั้นต้องดูพยานหลักฐาน ซึ่งนายอัครกิตติ์ยืนยันมาตลอดว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องยาเสพติด
เมื่อถามถึงเรื่องหลักประกันหากมีการยื่นฟ้องคดีในชั้นศาล นายสิทธิโชค ทนายความของเบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวว่า เป็นดุลพินิจของศาล หากศาลจะมีข้อกำหนดใดเพิ่มเติมก็พร้อมจะปฏิบัติตามทุกอย่าง มูลค่าหลักทรัพย์โดยหลักก็เป็นไปได้ที่อาจจะมีการเพิ่มจากเดิม แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
เมื่อถามถึงชีวิตครอบครัวภายหลังถูกตั้งข้อกล่าวหาทั้งสามีและภรรยา นายอัครกิตติ์กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “จริงๆ แล้วไม่ได้คิดจะหลบหนี เราให้ความร่วมมือที่ดีมาตลอด จากนี้รอเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่อสู้คดีในชั้นศาล”
“โฆษกอัยการ” เชื่อเหลือ 12 วันฝากขังสุดท้ายเบนซ์ เรซซิ่ง ทันอัยการสั่งคดี ย้ำแม้เวลาเร่งรัด แต่ไม่ทิ้งความรอบคอบตรวจหลักฐาน
ด้านเรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงขั้นตอนการฝากขัง หลังจากพนักงานสอบสวน ปส. แจ้งข้อหาเพิ่มเติม นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง นักแข่งรถชื่อดัง อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมสมคบฟอกเงินกับนายณัฐพล หรือ บอย นาคคำ เครือข่ายนักค้ายาเสพติดไซซะนะ ว่า เดิมผู้ต้องหาถูกกล่าวหาความผิดฟอกเงินซึ่งขณะอยู่ระหว่างการฝากขังแล้ว ซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดฯ นั้น ก็สืบเนื่องมาจากพฤติการณ์การสมคบฟอกเงิน ดังนั้นพนักงานสอบสวนจึงไม่ต้องมีการยื่นคำร้องฝากขังนับหนึ่งใหม่ในข้อกล่าวหาพ.ร.บ.มาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดฯ แต่การฝากขังจะต่อเนื่องกันไปกับข้อกล่าวหาฟอกเงินที่ยังเหลือเวลาอีก 12 วัน
เมื่อถามว่าภายในเวลา 12 วัน พนักงานอัยการจะพิจารณาสำนวนเพื่อสั่งคดีได้ทันหรือไม่
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า อัยการยังมีเวลาเร่งรัดอีกนิด แต่เราจะยึดหลักพิจารณาสำนวนพยานหลักฐานให้ละเอียดรอบถี่ถ้วนโดยอัยการและตำรวจจะร่วมกันทำให้ดีที่สุด ซึ่งทราบจากอธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติดว่า การพิจารณาสำนวนก็จะมีคณะทำงานดูแลโดยคดียาเสพติดที่เกี่ยวเนื่องกับเครือข่ายของนายไซซะนะนั้นมีการจัดตั้งคณะทำงานอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ดีสำนวนคดีของนายอัครกิตติ์ ขณะนี้ยังไม่ถึงมืออัยการ