รวบแก๊งชาวกัมพูชา 5 ราย ก่อเหตุล้วงกระเป๋าชิงทรัพย์ทั้งคนไทย และต่างชาติ ก่อเหตุในหลายพื้นที่ โดยเลือกสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน สารภาพแบ่งงานกันทำเป็นทีม รายได้ต่อเดือน 4-5 หมื่นบาท พอเก็บเงินได้เป็นก้อนก็เอาไปใช้จ่าย และฝากเงินไว้ที่กัมพูชาแล้วกลับมาก่อเหตุอีก
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 20.30 น. ที่ สน.ทองหล่อ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผบช.น. พ.ต.ท.จิรกฤต จารุนภัทร์ รองผกก.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ต.ทองเปลว หาญไพบูลย์ สว.สส.สน.ทองหล่อ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายนวล รัดทา อายุ 35 ปี, นายส่วน กัมพูชา อายุ 35 ปี, นายเจิ๊ด ยึกวีเจิ๊ด อายุ 31 ปี, นายคง ซีวุดธี อายุ 37 ปี และนายโลน ทีโลน อายุ 27 ปี ทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชา พร้อมของกลางเงินสด 7,780 บาท เงินตราต่างประเทศจำนวนหนึ่ง กระเป๋าสตางค์ 7 ใบ นาฬิกา 1 เรือน และโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง ในข้อหาซ่องโจร และร่วมกันลักทรัพย์โดยวิธีล้วงกระเป๋า โดยจับกุมได้ที่ริมถนนซอยสุขุมวิท 30 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โดยพักอาศัยอยู่ที่ห้อง 408 เลิศถาวรอพาร์ทเม้นต์ ซ.สันตินคร 1/6 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยเทศบาลสำโรงใต้ 8 ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีแก๊งคนร้ายก่อเหตุล้วงกระเป๋าชาวไทย และชาวต่างชาติ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จึงได้ออกสืบสวนติดตาม รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิด ประกอบกับการสอบปากคำผู้เสียหายวิเคราะห์พฤติกรรมคนร้าย พบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นชาวกัมพูชาประมาณ 5 คน มีการวางแผนแบ่งหน้าที่กัน จึงได้จัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตามจุดเสี่ยงจุดล่อแหลมที่มักเกิดเหตุอยู่เป็นประจำ จนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ยกแก๊งพร้อมของกลางดังกล่าว
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวต่อว่า แก๊งนี้มีนายโลนชาวกัมพูชาเป็นหัวหน้าขบวนการได้รวมกลุ่มกันมาจากประเทศกัมพูชา และมีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยนายโลนจะเป็นผู้ลงมือล้วงกระเป๋าเหยื่อ จากนั้นจะมีผู้ทำหน้าที่เดินประกบคอยบังสายตาของผู้อื่นอีกประมาณ 2-3 คน และจะมีอีก 1 คน คอยรับทรัพย์สินที่ล้วงเอามาได้หลบหนี โดยจะเลือกก่อเหตุกับเหยื่อที่สะพายกระเป๋าเป้ หรือใช้กระเป๋าสะพาย ส่วนใหญ่จะใช้การรูดซิปแล้วจึงล้วงเอาทรัพย์สินไป มักเลือกก่อเหตุตามสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ถนนสุขุมวิท ถนนพระราม 2 ย่านประตูน้ำ หรือตามห้างสรรพสินค้า โดยจะก่อเหตุวันละ 2-3 ครั้ง ไม่เลือกช่วงเวลา ส่วนใหญ่จะก่อเหตุช่วงกลางวัน อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์ที่ได้จากผู้เสียหายจะนำไปขายที่ตลาดปอยเปต ฝั่งประเทศกัมพูชา ส่วนเงินตราต่างประเทศจะนำไปแลกที่ร้านรับแลกเงินย่านซอยนานา รายได้ต่อเดือนเฉลี่ยเดือนละ 4-5 หมื่นบาท เมื่อเก็บเงินได้เป็นก้อนแล้วก็จะนำเงินสดที่ได้กลับไปใช้จ่าย และฝากเงินที่ประเทศกัมพูชาแล้วกลับมาก่อเหตุอีก
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานครรวมกันกว่า 100 ครั้ง และผู้ต้องหาทุกคนเคยต้องโทษในเรือนจำประเทศไทย ในฐานความผิดลักษณะล้วงกระเป๋า มาแล้วหลายครั้ง
ทั้งนี้ นายนวลเคยถูกจับ 2 ครั้ง ครั้งแรกที่ สน.พญาไท ปี 46 ในข้อหาลักทรัพย์ (ล้วงกระเป๋า) และ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ปี 60 ในข้อหาลักทรัพย์ นายส่วนถูกจับ 1 ครั้ง ที่ สน.ทองหล่อ ปี 56 ในข้อหาลักทรัพย์ (ล้วงกระเป๋า) นายเจิ๊ด เคยถูก สน.พระโขนง จับเมื่อปี 57 ในข้อหาพยายามลักทรัพย์ นายคงถูกจับ 1 ครั้ง ที่ สน.ท่าข้าม เมื่อปี 57 ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ และนายโลน เคยถูกจับ 1 ครั้ง ที่ สน.ทองหล่อ เมื่อปี 56 ในข้อหาลักทรัพย์ (ล้วงกระเป๋า)