ผช.ผอ.ฝ่ายขายสาวบริษัทประกันโร่ร้อง สคบ. หลังยืดผมร้านเสริมสวย ช่างทำผมช็อตแห้งกรอบร่วงจำนวนมาก เผยก่อนทำเจ้าของร้านการันตีฝีมือ รับปากคืนเงินหากทำให้ผมเสีย แต่กลับไม่รับผิดชอบ แนะให้โกนหัวปีเดียวเดี๋ยวก็คืนสภาพ
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 10 พ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ น.ส.ขวัญญานันท์ ธัญรัชชานนท์ อายุ 30 ปี ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายขายบริษัทประกันแห่งหนึ่ง และนายชวัลวิทย์ จีนโต อายุ 25 ปี ผู้จัดการบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งซึ่งโพสต์ในเฟซบุ๊กว่า น.ส.ขวัญญานันท์ แฟนสาวได้เข้าไปยืดผมที่ร้านแห่งหนึ่ง ภายในซอยสามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ในราคา 1,500 บาท หลังจากทำการยืดผมผลปรากฏว่าผมเสียขาดร่วงจำนวนมาก หรือผมช็อตทั้งศีรษะ แต่ทางร้านไม่รับผิดชอบ กลับโทษว่าผมเสียอยู่ก่อนแล้ว และบอกว่าให้บำรุงผมสักประมาณ 1 ปีจะกลับมาดีเหมือนเดิม ทั้งสองจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เดินทางไปแจ้งความที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ถนนแจ้งวัฒนะ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้เสียหายรวบรวมพยานหลักฐานมอบให้ สคบ. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบสภาพผมของ น.ส.ขวัญญานันท์ ผู้เสียหาย พบว่าผมมีลักษณะเป็นฝอย แห้งกรอบทั้งศีรษะ บางส่วนมีการขาดหลุดร่วงเป็นจุดๆ ไม่เท่ากัน สัมผัสโดยการใช้มือจับเบาๆ ผมก็หลุดขาดติดมือมาเป็นจำนวนมาก ระหว่างที่พูดคุย ผู้เสียหายมีน้ำตาคลอตลอดเวลาเนื่องจากเสียใจจนพูดออกมาไม่ได้ เรื่องผมกับผู้หญิงเป็นเรื่องที่รับไม่ได้และรู้สึกอับอาย ตั้งแต่วันที่ออกจากร้านจนถึงวันนี้ ผู้เสียหายยังไม่กล้าที่จะไปทำงานหรือออกจากบ้านเพื่อไปพบปะลูกค้าเนื่องจากอับอายและขาดความมั่นใจ
น.ส.ขวัญญานันท์เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุได้ขับรถหาร้านทำผมที่ว่างและเปิดอยู่เนื่องจากร้านประจำปิด จนไปเจอร้านดังกล่าวจึงเข้าไปสอบถามราคายืดผม ทางร้านบอกว่าประมาณ 2,000 บาท ตนจึงต่อราคาและถามว่าใช้น้ำยาของอะไร ทางร้านบอกว่าไม่ได้อยู่ที่น้ำยา อยู่ที่คนยืดและเขาก็เป็นเจ้าของร้าน ทางร้านจึงลดราคาให้ แต่ขอตัดผมออกให้สั้นหน่อย ทางร้านการันตีความตรง ความนุ่มและผมไม่ช็อต และยินดีคืนเงินให้ถ้าผมเสีย ตนจึงให้แฟนกลับบ้านไปเพราะใช้เวลานาน หลังจากลงน้ำยาไปตัวแรกเขามาจับดูแล้วบอกให้ตนไปล้างผมออก หลังจากจับดูผมมันเปื่อยและเป็นวุ้นลื่นๆ ตนจึงขอดูน้ำยาแต่ทางร้านไม่ให้ดู จากนั้นทางร้านก็ไดร์ผมเมื่อเห็นว่าผมมันขาดหลุดร่วง ทางร้านจึงหยุดทำผม และยังบอกว่าถ้าตัดหมดหัวโกนผมเลยก็ได้ 1 ปีเดี๋ยวผมก็ขึ้น ตนก็ร้องไห้หนักมากจนจะเป็นลม ลูกค้าในร้านอีกคนที่เห็นเหตุการณ์จึงได้พาตนออกมาจากร้านมารอแฟน ตอนนี้ออกไปทำงานไม่ได้เพราะงานของตนเป็นงานขายประกันจะออกไปซื้อของต้องรวบผมและใส่หมวกออกไป อยากฝากเตือนผู้หญิงทุกคนว่าอย่ารีบร้อนเหมือนตน ต้องดูร้านหรือน้ำยาให้ดีๆ ทางที่ดีทำร้านที่เคยทำดีกว่าจะได้ไม่เป็นเหมือนตน
เบื้องต้นผู้เสียหายได้เดินทางไปร้องทุกข์ต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อนำไปมอบให้ในวันที่ 11 พ.ค. 60 และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
