เลี้ยงไม่เชื่อง สุนัขพิตบูลขย้ำเจ้าของพ่อลูกแผลเหวอะหามส่งโรงพยาบาล

MGR Online - สุนัขพันธุ์พิตบูลเทอร์เรีย กัดพ่อลูกเจ้าของสุนัขเป็นแผลเหวอะหวะ กู้ภัยเข้าช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล เผยชนวนเหตุเสียงดังใส่ลูกสาวคนให้อาหารสุนัขมาตั้งแต่ยังเล็ก

วันที่ 7 พ.ค. 60 เมื่อเวลา 17.00 เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งว่า มีชายถูกสุนัขกัดได้รับบาดเจ็บ 2 รายที่หมู่บ้านบัวทอง บ้านเลขที่ 104/26 หมู่ 10 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ภายในบ้านพบสุนัขพันธุ์พิตบูลเทอร์เรีย นอนอยู่ใต้ท้องรถยนต์กระบะ ทราบชื่อเจ้าของบ้านและเจ้าของสุนัข คือ นายสมสกุล กันม่วง อายุ 56 ปี อาชีพขับจักรยานยนต์รับจ้าง ถูกสุนัขกัดที่บริเวณใต้ราวนมด้านซ้ายและข้อมือด้านซ้าย ผู้บาดเจ็บอีกรายคือนายเมฆินทร์ กันม่วง อายุ 17 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.ปี 2 วิทยาลัยเทคนิคนนทบุรี ทั้งสองเป็นพ่อลูกกัน ถูกสุนัขตัวเดียวกันกัดเข้าที่บริเวณฝ่ามือข้างขวา แขนข้างซ้าย และข้อเท้าขวา โดยทั้งพ่อลูกมีบาดแผลเหวอะหวะทั้งคู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำส่งโรงพยาบาลบางบัวทองเพื่อทำการช่วยเหลือ เบื้องต้นอาการปลอดภัย แพทย์หวั่นแผลติดเชื้อต้องรอดูอาการ

ต่อมานายอาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางบัวทอง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป้องการและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองบางบัวทอง ร่วมกับปศุสัตว์อำเภอบางบัวทอง นำยาสลบมาฉีดเพื่อยับยั้งไม่ให้สุนัขตัวดังกล่าวไปทำร้ายประชาชนในละแวกใกล้เคียง พร้อมทั้งนำไปทำหมันเพื่อระงับความดุร้าย พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มาดำเนินการต่อไป

ด้านนายสมสกุล เจ้าของสุนัขเปิดเผยว่า ตนเลี้ยงสุนัขตัวนี้มาตั้งแต่อายุ 4 เดือน ตอนนี้อายุได้ 5 ปีแล้ว ชื่อยูโร เป็นสุนัขพันธุ์พิตบูลเทอร์เรีย ก่อนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้มีปากเสียงกับบุตรสาว คือ ด.ญ.ณัตฐิดา กันม่วง อายุ 14 ปี จู่ๆ สุนัขตัวดังกล่าวได้กระโจนเข้ามาขย้ำตน เมื่อลูกชายตนเห็นว่าตนถูกสุนัขกัดจึงเข้ามาช่วย แต่ก็ไม่สามารถสู้ความแข็งแกร่งของสุนัขพันธุ์ล่าเนื้อตัวนี้ได้จึงทำให้ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ ถือว่าโชคยังดีที่สุนัขตัวนี้ไม่ได้ทำอันตรายลูกสาวตน เพราะว่าลูกสาวของตนเป็นคนเลี้ยงและให้อาหารมาตั้งแต่ตัวยังเล็ก

นายสมสกุลกล่าวต่ออีกว่า สาเหตุที่ทำให้สุนัขเข้ามาทำร้ายตนและลูกชายน่าจะมาจากที่ตนเสียงดังใส่ลูกสาว มันจึงเข้ามาปกป้องเจ้านายของมัน และประกอบกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวจึงอาจทำให้สุนัขเกิดอาการคลุ้มคลั่งได้ นับจากนี้ตนไม่กล้าที่จะเลี้ยงสุนัขอีกต่อไปแล้วเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย อีกทั้งยังฝากเตือนใครที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุร้ายไว้ที่บ้านให้ระวังให้ดี เพราะช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน สุนัขอาจจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งและมาทำร้ายคนที่คุณรักเมื่อไหร่ก็ได้