MGR Online - เตรียมดำเนินคดีกลุ่มเด็กแว้น คดี “ดีเจเชาเชา” ตำรวจพบคำให้การฝ่ายคนตายขัดแย้งข้อเท็จจริง แถมยังมีภาพวงจรปิดปล่อย จยย.ทีละคู่ไม่ตรงกับคำให้การที่อ้างว่าหนีกลุ่มวัยรุ่นคู่อริ ส่วนดีเจคนดังหลังตั้งหลักเรียบร้อยได้ฤกษ์เจอตำรวจเย็นนี้
วันนี้ (4 พ.ค.) พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุดีเจชื่อดังว่า ทางทนายความได้นำรถยนต์ยี่ห้อเลกซัส สีขาว ทะเบียน 2 กฆ 6789 ของนายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม หรือดีเจเชาเชา มาให้ทางเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 5 (ตรวจพิสูจน์, สถิติวิจัย) บก.จร.ตรวจสอบ ซึ่งทางทนายยืนยันว่าดีเจเชาเชารับว่าขับรถชนจริง แต่ในรายละเอียดต้องรอสอบเจ้าตัวเอง
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นตรวจสอบรถพบว่ามีร่องรอยของการชนที่บริเวณกระจังหน้า ป้ายทะเบียน และบริเวณกันชนด้านขวาของตัวรถซึ่งน่าจะตรงกับป้ายทะเบียนท้ายจักรยานยนต์ของนายจิรภาษ ธงอาษา อายุ 18 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นในบันทึกประจำวันว่าเกิดเหตุโดยมีดีเจเชาเชาเป็นคู่กรณีอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเท่านั้น หลังจากเกิดเหตุดีเจเชาเชาก็อยู่กับเจ้าหน้าที่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น และให้การในวันเกิดเหตุเพียงว่ารถมอเตอร์ไซค์เกิดเกี่ยวกันและกระเด็นมาโดนรถตนเอง ก่อนที่ดีเจเชาเชาจะมายอมรับในภายหลังว่าเป็นคนขับรถชน นอกจากนี้ จากการพูดคุยพนักงานสอบสวนยืนยันว่าดีเจเชาเชาไม่ได้อยู่ในอาการมึนเมา จึงไม่จำเป็นที่จะต้องตรวจแอลกอฮอล์ และยังไม่ได้มีการสอบปากคำที่เป็นลายลักษณ์อักษร ดังนั้นจึงจำเป็นที่ดีเจเชาเชาจะต้องมาให้ปากคำ แต่หากไม่มาตามนัดในวันพรุ่งนี้จะออกหมายเรียกทันที นอกจากนี้ยังเหลือกล้องวงจรปิดจากเจ้าหน้าที่ กทม.อีกตัวหนึ่งซึ่งคาดว่าจะเป็นมุมที่จะเห็นได้ชัดเจนกว่าว่าในวันเกิดเหตุเป็นอย่างไร
พ.ต.อ.ธนกรณฑ์กล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้ทำการสอบพยานไปแล้ว 2 ปาก คือ แม่ผู้เสียชีวิต และเพื่อนของผู้ตาย ทั้งนี้จากคำให้การของเพื่อนผู้ตายให้การว่า ในวันเกิดเหตุตนและผู้ตายพร้อมด้วยเพื่อนอีกหลายคนไปขับรถเล่นและได้ไปจอดพักที่บริเวณใต้สะพานลอย ถ.วัชรพล สุขาภิบาล 5 ตัดใหม่ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ก่อนที่จะมีวัยรุ่นอีกกลุ่มขว้างก้อนหินลงมาจากสะพานลอย พวกตนตกใจและเกรงว่าจะมีเรื่องกันจึงรีบขับรถออกมาจนทำให้เกิดเหตุดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเห็นว่ามีหลายอย่างที่ขัดต่อคำให้การ เพราะการที่จอดรถใต้สะพานและมีคนโยนก่อนหินลงมาจากสะพานนั้นจะต้องปาก้อนหินในวิถีโค้งเท่านั้นจึงจะโดน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อนหน้าเกิดเหตุพบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มของผู้ตายนั้นได้นัดรวมกลุ่มกับวัยรุ่นอีกจำนวนหนึ่งโดยมีลักษณะเหมือนการแข่งรถอีกด้วย เนื่องจากมีการปล่อยรถออกไปเป็นคู่และขับกลับมาเป็นในลักษณะนี้อยู่ 2-3 รอบ
“พนักงานสอบสวนต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะหากปรากฏว่ามีการแข่งรถกันจริงก็จะมีผลต่อการพิจารณาคดีด้วย เพราะการแข่งรถจะต้องมีการใช้ความเร็ว และอาจจะต้องมีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการแข่งรถในทางสาธารณะต่อกลุ่มเพื่อนผู้เสียชีวิตด้วย แต่ในส่วนของนายจิรภาษ ผู้เสียชีวิตนั้น คดีอาญานี้จะจบได้เพราะถือว่าผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตไปแล้ว จะเป็นคดีที่ไม่เกี่ยวกับของดีเจเชาเชา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานในเรื่องร่องรอยการชน ความเร็วที่ใช้ขณะเกิดเหตุ รวมไปถึงการสอบปากคำพยาน และดีเจเชาเชาเองซึ่งได้มีการติดต่อว่าจะเข้ามาให้ปากคำในตอนเย็นวันเดียวกันนี้” ผกก.สน.สายไหมกล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ที่ สน.สายไหม ดีเจเชาเชาได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนแล้ว โดยยังไม่เปิดเผยรายละเอียดใดๆ