เMGR Online - เจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางกว่า 20 ราย ร้องผู้การกองปราบปรามช่วย หลังถูกหลอกลงทุนโปรโมตสินค้าในประเทศ AEC ปี 59 สูญ 30 ล้าน
วันนี้ (4 พ.ค.) ที่กองปราบปราม น.ส.เอ (นามสมมติ) ตัวแทนบริษัทเครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง พร้อมด้วยเจ้าของธุรกิจความความงามกว่า 20 ราย เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของบริษัทโปรโมตสินค้าแห่งหนึ่งในข้อหาฉ้อโกง หลังหลอกลวงผู้เสียหายหลายรายให้ลงทุนโปรโมตธุรกิจแล้วไม่สามารถทำให้ได้ตามที่ตกลงจนทำให้เกิดความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท โดยนำเอกสารหลักฐาน เช่น หนังสือทำสัญญาลงทุน หลักฐานการโอนเงิน เป็นต้น มามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบสำนวนคดี
น.ส.เอกล่าวต่อว่า รู้จักกับบริษัทดังกล่าวเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 2559 โดยได้รับคำแนะนำมาจากเพื่อนสนิท จึงได้เข้าไปศึกษาข้อมูลทางเฟซบุ๊กของบริษัทดังกล่าว พร้อมติดต่อสอบถามรายละเอียดไปยังบริษัททราบว่ารับเป็นผู้โปรโมตสินค้าและกระจายการขายสินค้าในแถบอาเซียน เช่น สปป.ลาว, พม่า และเวียดนาม เป็นต้น โดยผู้ที่สนใจจะต้องสมัครค่าแรกเข้าเป็นเงิน 178,000 บาท และจะได้รับการนำสินค้าไปโปรโมตตามประเทศที่ตกลงก่อนหน้านี้ซึ่งจะนำสินค้าไปวางจำหน่ายที่หน้าร้านของบริษัทเองที่ตั้งอยู่ในประเทศนั้น
น.ส.เอกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนได้เซ็นสัญญาสมัครสมาชิกพร้อมจ่ายเงินก็ได้นำสินค้าประเภทเครื่องสำอางรวมมูลค่าประมาณ 8 แสนบาท ไปมอบให้บริษัทดังกล่าวเพื่อนำไปโปรโมตและขายในต่างประเทศ โดยระยะเวลา 3 เดือนแรกได้รับเงินจากการขายสินค้าประมาณเพียงหลักหมื่น ถือว่าน้อยมากกับเงินลงทุนและผลตอบแทนที่ทางบริษัทกล่าวอ้าง อีกทั้งทางบริษัทได้ชักชวนให้ซื้อแพกเกจเสริมในราคา 2 ล้านบาท เพื่อเป็นการซื้อสื่อในต่างประเทศเพิ่ม และการันตีค่าตอบแทน 200% แต่ตนไม่ได้ตัดสินใจซื้อแพกเกจดังกล่าวเพิ่มเนื่องจากทางบริษัทมีการเร่งรัดในการจ่ายเงินลงทุนเร็วเกินไป
น.ส.เอกล่าวต่ออีกว่า หลังจาก 3 เดือนผ่านไป ทางบริษัทฯ ก็ไม่จ่ายเงินในการขายสินค้าให้จึงได้ติดต่อสอบถามไปก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง อ้างว่าอยู่ต่างประเทศ จนกระทั่งติดต่อไม่ได้ ตนจึงได้เดินทางไปยังบริษัทดังกล่าวที่ตั้งอยู่ในย่านวัชรพล เป็นตึกแถว 3 ชั้น บริเวณด้านล่างเปิดเป็นสำนักงาน ส่วนชั้นบนเป็นที่เก็บของ โดยเมื่อไปถึงพบว่าไม่มีใครอยู่ในตึก จึงสอบถามทางเจ้าของตึกก็ทราบว่าตัวบริษัทดังกล่าวค้างค่าเช่ามา 3 เดือนแล้ว ติดต่อทวงเงินไปก็อ้างเช่นเดียวกันคืออยู่ต่างประเทศ ทั้งนี้ อยากจะฝากเตือนไปยังนักธุรกิจหน้าใหม่ให้ทราบถึงกลการหลอกลวงที่มาในหลายรูปแบบ ขอให้ระวังตัวและระมัดระวังในการตัดสินใจในการลงทุนโปรโมตสินค้า เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ เบื้องต้น พล.ต.ต.สุทินได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้เสียหายไว้ก่อนพิจารณาดำเนินคดีต่อไป