xs
xsm
sm
md
lg

ยายเด็กแฝดโร่ร้องกองปราบ ขอเจรจาลูกเขยพบหลานสาว หวั่นดูแลไม่ดี ชี้ไม่เคยเห็นเอกสารรับรองบุตร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ยายเด็กฝาแฝด “น้องใบบัว-ใบตอง” รุดพบตำรวจกองปราบฯ ให้เจ้าหน้าที่เป็นคนกลางเชิญอดีตลูกเขยขอเจรจา หลังลูกเขยพาตัวไปตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา วอนพบหน้าหลานหวั่นเลี้ยงดูไม่ดี ด้านทนายขอให้นำเอกสารรับรองบุตรมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน เพราะที่ผ่านมายายไม่เคยเห็นเอกสารดังกล่าวแม้แต่ทะเบียนสมรส

จากกรณีการเรียกร้องสิทธิการเลี้ยงดูเด็กหญิงฝาแฝด วัย 7 ขวบ ระหว่างฝ่ายพ่อ และป้า ยายของเด็ก เนื่องจากแม่เด็กแฝดเสียชีวิตตอนคลอดทำให้ป้าและยายเป็นฝ่ายดูแล กระทั่งต่อมาฝ่ายผู้เป็นพ่อได้กลับมาขอทำหน้าที่พ่อรับเด็กแฝดทั้ง 2 คนกลับไปดูแล ทำให้ยายและป้าไม่ยอม แต่สุดท้ายผู้เป็นพ่อก็สามารถนำตัวเด็กทั้งสองกลับไปเลี้ยงดู ตามที่เคยนำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันนี้ (30 เม.ย.) ที่กองปราบปราบ เมื่อเวลา 09.00 น. นางเสาว์ พวงท้าว อายุ 67 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยนายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.เฉลิมพร ลาสอน รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ป. เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากเกรงว่าเด็กหญิงคู่ฝาแฝดวัย 7 ขวบจะได้รับการเลี้ยงดูไม่ดี และถูกกระทำรุนแรงจากนายสุรชัย พลอยไป พ่อของเด็กทั้งสองคน

นางเสาว์กล่าวว่า สำหรับการเดินทางมายังกองบังคับการปราบปราบปรามในวันนี้ก็เพื่อต้องการที่จะขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเป็นคนกลางในการเชิญตัวนายสุรชัย อดีตลูกเขยให้มาพบ เนื่องจากอยากเห็นหน้าหลานสาวทั้งสองคน เพราะหลังจากที่นายสุรชัยพาหลานสาวของตนกลับไปดูแลเองแล้วนั้น ตนก็ไม่เคยได้พบเห็นหน้าหลานสาวทั้งสองคนอีกเลย จึงทำให้รู้สึกเป็นห่วง เพราะตนเลี้ยงดูประคบประหงมหลานทั้งสองคนมาตั้งแต่เกิด อีกทั้งตลอดช่วง 7 ปีที่ผ่านมานายสุรชัยเองนั้นก็ได้มาพบหลานสาวทั้งสองคนและให้เงินช่วยเหลือ 5,000-10,000 บาทต่อปีเท่านั้น โดยไม่เคยแสดงตนจะเป็นผู้ดูแลอย่างจริงจังแต่อย่างใด นอกจากนี้ ตนยังทราบอีกว่าปัจจุบันฐานะของนายสุรชัยก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก อีกทั้งยังมีบุตรชายจากภรรยาอีกคนที่ต้องเลี้ยงดู รวมถึงครอบครัวทางอดีตลูกเขยไม่มีผู้หญิงอยู่ในครอบครัวเลย นอกจากภรรยาใหม่ที่อายุเพียง 20 ปี ทำให้กังวลว่าอาจดูแลหลานสาวทั้งสองคนได้ไม่ดี ส่วนการนัดเจรจากับอดีตลูกเขยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ที่ตนเองไม่ได้เดินทางไปเนื่องจากมีอาการปวดท้องทำให้ไม่สามารถเดินทางไปร่วมเจรจาได้ และตนเองก็ไม่ได้อยากเจอทนายความ แต่อยากเจอหน้าหลานสาวทั้งสองคน

ด้านนายอนุสรณ์กล่าวว่า ในวันนี้มาลงบันทึกประจำวันและขอให้ตำรวจเชิญตัวอดีตลูกเขยของคุณยาย โดยขอให้นำเอกสารหลักฐานแสดงความเป็นพ่อเด็ก และเอกสารรับรองบุตร หรือคำสั่งศาลมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากที่ผ่านมาทางครอบครัวคุณยายไม่เคยเห็นเอกสารเหล่านี้เลย แม้กระทั่งใบทะเบียนสมรส

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิมพรกล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานตามความประสงค์ของนางเสาว์เนื่องจากความเป็นห่วงหลานสาวทั้งสองคน แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้นยังไม่พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีอาญาเกิดขึ้น จึงยังไม่สามารถที่จะเชิญตัวนายสุรชัยมาเข้าพบได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความสบายใจแก่ทั้งสองฝ่าย ตนจึงแนะนำให้นางเสาว์นั้นไปติดต่อปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวโดยตรง


กำลังโหลดความคิดเห็น