คืบคดีพ่อแท้ๆ จับลูกน้อยพิการทุ่มพื้น รับทำไปเพราะเครียดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอน้อมรับความผิดที่ได้กระทำไป มารดาผู้ต้องหายื่นเงินสามหมื่นขอประกันตัว
ตำรวจติดตามจับกุมพ่อที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกชายที่พิการทางสมองได้ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า เครียดที่เห็นลูกพิการ และต้องออกมาจากงาน (ไฟฟ้า) มาเลี้ยงลูกตลอดระยะเวลา เลยทำให้เครียด จึงก่อเหตุดังกล่าวหลังจากที่มีคลิปพ่อทำร้ายลูกวัย 1 ขวบ 9 เดือน ที่มีการแชร์กันโซเชียลมีเดียตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับตัว นายศราวุธ ลันขุนทด อายุ 31 ปี พ่อของเด็กที่ถูกทำร้ายได้ที่ จ.สิงห์บุรี ซึ่งในวันนี้ทางด้าน ร.ต.อ.มนตรี รัตนพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.คูคต นำผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่มพร้อมกับเชิญตัวนางสุนันท์ ลันขุดทด อายุ 54 ปี แม่ของผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่มเติมด้วย ซึ่งสีหน้าของผู้ต้องหามีอาการผ่อนคลายมากขึ้น
วันที่ 27 เม.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรคูคต จังหวัดปทุมธานี สอบปากคำ นายสรวุฒิ ลันขุนทด หรือ โอ๊ต อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาสจังหวัดธัญบุรี ที่ 272/2560 ลงวันที่ 26 เมษายน 2560 ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ พระราชบัญญัติความรุนแรงในครอบครัว หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกชายวัย 1 ขวบ 9 เดือน ที่พิการทางสมอง โดยจับกุมได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.สระแจง อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี
ด้าน นายสรวุฒิ รับสารภาพว่า วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 19 เมษายน ยอมรับผิดที่ได้กระทำกับลูกชาย แต่เนื่องจากเกิดความเครียดเรื่องภายในครอบครัว ซึ่งตนเองได้ลาออกจากงาน เพื่อดูแลลูกชายซึ่งพิการทางสมอง หลายครั้งที่ลูกชายร้องงอแง และตนเองเกิดอาการเครียดที่เห็นลูกเป็นคนพิการ จึงลงมือไปด้วยความโมโห รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งขอยอมรับความผิดที่ได้กระทำไป และหลังจากทราบว่าภรรยาเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดในบ้าน และได้ไปแจ้งความ จึงได้นั่งรถกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เรียกทางฝ่ายภรรยามาสอบสวน พร้อมด้วย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดปทุมธานี และทำสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมาย “ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ พระราชบัญญัติความรุนแรงในครอบครัว” ส่งฟ้องศาลจังหวัดธัญบุรี ต่อไป
จากนั้นทางพ่อและแม่ของ นายสรวุฒิ ผู้ต้องหา จึงได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อไปขอยื่นการประกันตัวลูกชาย ด้วยเงินสดจำนวน 32,000 บาท ก่อนปล่อยตัวลูกชายออกมา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นัดไปศาลอีกครั้งในวันที่ 13 พ.ค. 60 นี้ ทางครอบครัวรู้สึกเสียใจ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าบางเรื่องที่ลูกชายถูกกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง แม้กระทั่งตนเองเคยไปเลี้ยงหลานให้ที่บ้าน ก็เห็นลูกชายต้องลาออกจากงานมาทำงานบ้านแบบที่ผู้ชายเข้าไม่ทำกัน (คือลูกชายต้องมาซักกางเกงในเมีย) ตนเองก็รับไม่ได้ แม่ กล่าว
ด้าน นางสาวนุชจร บุญสิล อายุ 38 ปี (เสื้อลาย) พี่สาวของผู้ต้องหาได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่า น้องชายของตนเองเป็นคนเก็บกดไม่อยู่กับที่ต้องทำงานตลอด จนมามีลูกทางภรรยาไม่ให้ทำงานต้องเลี้ยงลูกมาโดย ตลอดตั้งแต่ลูกเกิดและก็ไม่มีเงินที่จะส่งให้ทางบ้านและไปรับ-ส่งภรรยาไปที่ทำงาน พร้อมทั้งกับทำงานบ้านทุกอย่างวันเกิดเหตุทางน้องชาย บอกว่า หนีออกมาจากบ้าน เพราะโดนเมียตบหน้า และกลัวว่าตนเองจะยั้งอารมณ์ไม่ได้จึงหนีกลับมาที่บ้านเกิด จ.สิงห์บุรี ด้วยการเดินเท้ามาจากบ้านพักและมาขึ้นรถแท็กซี่ที่รังสิต แต่เวลานั้นน้องชายบอกไม่มีเงินให้แม่ไปรับและจ่ายค่ารถแท็กซี่ให้ด้วย และน้องชายตนเองมีความเครียดอยู่แล้ว หลังจากนั้น ทางภรรยาก็ได้มาแจ้งความโดยกล่าวหาว่าสามีได้ทำร้ายลูกบีบคอลูก จนเป็นปัญหามาถึงทุกวันนี้