MGR Online - ผบก.จร.เด้ง 4 ตำรวจในคลิปดังรุมล็อกตัวหนุ่มใหญ่จับกดลงพื้น หลังเข้าใจผิดถ่ายภาพขณะยืนกวดขันวินัยจราจร พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง จ่อฟันวินัย-อาญา ยันถ่ายภาพตำรวจปฏิบัติหน้าที่ไม่ผิดกฎหมาย
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Peerasit Jirawongpaisarn ได้โพสต์วิดีโอคลิปในกลุ่ม "ปลดแอกชาวสองล้อ" เป็นเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลางใช้กำลังรุมจับกุมชายคนหนึ่งเนื่องจากไม่พอใจที่ชายคนดังกล่าวถ่ายรูปการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรบริเวณถนนพระราม 4 ขาเข้า หน้าตลาดไก่ ย่านคลองเตย ซึ่งมีร้องเรียนการจอดรถกีดขวางทำให้จราจรติดขัด จนเกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 09.00 น.ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (25 เม.ย.) เวลา 12.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. พร้อมด้วยนายปราโมกข์ รอดเที่ยง ผู้เสียหาย และนายรณนรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีดังกล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และสร้างความเข้าใจแก่ทุกฝ่าย
โดย พลต.ต.ต.จริสันต์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นนั้รนทาง บก.จร.ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นายที่ปรากฏในคลิปกลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ใน ศปก.บก.จร. และให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิป หากพบว่ามีการกระทำที่ผิดทั้งในทางอาญาหรือในทางวินัยก็จะถูกดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเคร่งครัด และพร้อมให้ความเป็นธรรม
พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวอีกว่า ตามวันเวลาที่เกิดเหตุนั้นเป็นการกวดขันวินัยจราจรตามปกติ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นสัญญาบัตรควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้เป็นการตั้งด่านแต่อย่างใด เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีการจอดรถกีดขวางการจราจร ขับรถย้อนศร จนเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ส่วนกรณีที่มีการเสนอข่าวว่าในช่วงเกิดเหตุนั้นนายปราโมกข์อยู่ในอาการมึนเมาสุรา ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่ได้มีการระบุว่านายปราโมกข์เมาสุราตามที่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งนี้ ยืนยันว่าการถ่ายภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นสิ่งที่ประชาชนสามารถกระทำได้ไม่ผิดกฎหมาย
ด้านปราโมกข์เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นส่วนตัวยังรู้สึกหวาดระแวงเจ้าหน้าที่และไม่กล้าเดินทางเข้ามาพบ และมีอาการนอนไม่หลับ แต่ภายหลังจากได้รับคำยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ยังติดใจในเรื่องการดำเนินการบทลงโทษทางวินัยและทางอาญาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นาย รวมถึงการเยียวยาหลังจากเกิดเหตุที่ตนตนเองเป็นฝ่ายถูกกระทำ
ส่วนเหตุที่ถ่ายคลิปในบริเวณนั้น นายปราโมกข์ระบุว่า ต้องการถ่ายป้ายซอยเพื่อนัดแฟนว่าจะไปนัดเจอกันตรงบริเวณไหนเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะถ่ายการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
ขณะที่นายรณนรงค์ ทนายความยืนยันว่า นายปราโมกข์ไม่ได้มีอาการมึนเมา หลังจากนี้จะพานายปราโมกข์ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ทองหล่อ พร้อมขอเอกสารเพื่อไปตรวจร่างกายให้แพทย์ลงความเห็นหลังได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อไปประกอบการดำเนินคดี ทั้งนี้ยืนยันว่าหลังเกิดเหตุยังไม่ได้รับการเยียวยาแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กล่าวว่า กรณีจะมีการพิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงผู้บังคับบัญชาในระดับรองสารวัตร หรือสารวัตรด้วยหรือไม่นั้น จะต้องให้ทาง บก.จร. เป็นผู้พิจารณา ซึ่งหากผู้กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับผู้บังคับบัญชาท่านใด มันก็มีกฎระเบียบระบุไว้อยู่แล้วว่าผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ
"เรื่องนี้ตนไม่อยากให้ขยายวงกว้าง แต่ก็ต้องทำให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจ ซึ่งทั้งหมดได้มอบให้ต้นสังกัดดำเนินการแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายด้วย วันนี้ในที่ประชุมก็ได้กำชับกับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนว่า ตำรวจเราต้นทุนต่ำ ทำดีเสมอตัว ทำไม่ดีก็กลายเป็นทวีคูณ ต้องพยายามอย่าให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดี หากมีเจตนาดี การกระทำก็ต้องสอดคล้องด้วย ให้ทำเพื่อประชาชนจริงๆ" ผบช.น.กล่าว