MGR Online - กรมบังคับคดีแจงขั้นตอนอายัดทรัพย์คดี “ซินแสโชกุน” โยงอาญาและแพ่ง รอศาลสั่งก่อนนำทรัพย์สินไปขายทอดตลาด จ่ายค่าสินไหมผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 15 ล้าน
วันนี้ (24 เม.ย.) น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยความคืบหน้าคดี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน กรรมการบริหารบริษัท เวลท์เอเวอร์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และพวก ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นคดีอาญาเกี่ยวเนื่องกับคดีแพ่ง ตามกฎหมาย ป วิ.อาญา หมวด 2 มาตรา 40-44/1 โดยกระบวนการยึดทรัพย์และบังคับคดีนั้น เมื่อพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องอัยการให้ศาลพิจารณาก่อนมีคำพิพากษาเรื่องค่าสินไหมทดแทน และหากลูกหนี้ไม่สามารถชำระได้ก็จะให้กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวมาตั้งเรื่องที่ กรมบังคับคดี ดำเนินการสืบทรัพย์ พร้อม อายัดทรัพย์สินผู้กระทำความผิดเพื่อนำทรัพย์สินไปขายทอดตลาดนำเงินมาใช้กับผู้เสียหายต่อไป
น.ส.รื่นวดีกล่าวอีกว่า สำหรับการเฉลี่ยทรัพย์คืนให้แก่ผู้เสียหายนั้นจะต้องเฉลี่ยคืนให้ได้ทั้งหมดก่อน อาจจะไม่ครบตามจำนวนทั้งหมด และหากจำเลยยังไม่มีทรัพย์มาชดใช้ ทางกรมบังคับคดีก็จะดำเนินการฟ้องล้มละลาย โดยขณะนี้มีผู้เสียหายในคดีประมาณ 403 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท แต่ทรัพย์ที่ยึดผู้ต้องหามาได้ขณะนี้มีเพียง 12 ล้านบาท
อีกทั้ง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้ประสานนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้กรมบังคับคดีเป็นหนึ่งในหน่วยงานร่วมกับกรมพัฒนาธรกิจการค้า ดำเนินการดังกล่าวด้วย โดยวันที่ 28 เม.ย. นัดประชุมที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)
นอกจากนี้ กรมบังคับคดีได้รับการประสานจาก พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา (สบ 10) คดีแชร์ยูฟัน ซึ่งศาลมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 22 มี.ค. และพร้อมจะดำเนินการช่วยเหลือผู้เสียหายตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม กรมบังคดีทำงานเชิงรุกพร้อมให้คำแนะนำผู้เสียหาย โดยกรมบังคับคดีเคยทำคดีเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ ที่ผ่านมาในอดีตพบว่าผู้เสียหายส่วนมากไม่รู้วิธีการจึงอยากให้คำแนะนำต่างๆ