MGR Online - ตำรวจพาไอ้โหดแขมร์ทำแผนนาทีฆ่า “เจ๊สั้น” ลุกสาวสุดกลั้นน้ำตา “ฆ่าแม่ทำไม” สารภาพนาทีตายรู้ถูกไล่ออกเข้าไปขโมยทรัพย์สิน แต่อดีตเจ้านายกลับมาเจอเกิดปากเสียงก่อนจ้วงแทงเสียชีวิต หลังทำแผนเสร็จต้องรีบพาตัวกลับกลัวโดนชาวบ้านสหบาทา
วันนี้ (24 เม.ย.) พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รอง ผบก., พ.ต.ท.นิมิตร นูโพนทอง รอง ผกก.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายที อายุ 30 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 256/2560 ในข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมด้วยของกลาง 1. เงินสด จำนวน 6,385 บาท 2. พระเครื่อง 6 องค์ 3. อาวุธปืนขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก
พล.ต.ต.ธนายุตม์กล่าวว่า ด้วยเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2560 เวลาประมาณ 14.00 น. ได้มีคนร้ายก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นางธนพรพรรณ แสงประสิทธิ์ อายุ 47 ปี เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 72/49 หมู่บ้านพระปิ่น 7 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังทราบเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพนางธนพรพรรณนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าบ้าน โดยลักษณะสภาพศพถูกอาวุธมีดแทงที่บริเวณลำตัวและอกหลายแผล พบอาวุธมีดปลายแหลมลักษณะมีคราบเลือดติดตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ และบริเวณพื้นบ้านมีเลือดกระจายบนพื้นและหยดเป็นทางมาจากภายในตัวบ้าน ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบร่องรอยการงัดบ้านและรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องนอนของผู้เสียชีวิต
จากการสืบสวนทราบว่าผู้ตายมีอาชีพค้าขายผักอยู่ที่ตลาดไท และเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาผู้ตายได้ไล่ลูกจ้างชื่อ นายที สัญชาติกัมพูชา ออกจากงาน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้นายทีโกธรแค้น ชุดสืบสวนจึงได้เร่งสืบสวนติดตามทราบว่าหลังจากที่ผู้ตายขับรถกลับเข้ามาที่บ้านพัก ขณะนั้นผู้ตายได้โทร.คุยกับญาติและระหว่างที่พูดคุยกับญาติอยู่นั้น ญาติได้ยินเสียงผู้ตายพูดขึ้นว่า “มึงจะทำร้ายกูทำไม” แล้วเสียงได้เงียบไป สันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะถูกทำร้าย และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณรอบที่เกิดเหตุพบว่าดมีคนร้ายวิ่งออกจากบ้านและปีนกำแพงรั้วหมู่บ้านพระปิ่น 7 ออกไปทางด้านหลังคลองหลวงบูทีครีสอร์ท ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในรีสอร์ตและตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี จาการตรวจสอบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายที อดีตลูกจ้างของผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขออาศัยจักรยานยนต์ผู้อื่นออกมาที่หน้าตลาดไอยรา และเรียกรถยนต์แท็กซี่สีส้มหลบหนีไป
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและศาลได้อนุมัติหมายจับนายที ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังออกติดตามพร้อมทั้งประสานหน่วยงานข้างเคียง พื้นที่ชายแดน และตรวจคนเข้าเมือง สกัดจับกุมตามเส้นทางหลบหนีต่างๆ โดยคาดว่าคนร้ายอาจจะหลบหนีไปยังภูมิลำเนาของตนคือประเทศกัมพูชา จนสามารถติดตามจับกุมนายที ผู้ก่อเหตุได้ที่เขตอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้พร้อมของกลางดังกล่าว โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นคนลงมือใช้อาวุธมีดของกลางที่ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุแทงผู้ตายจริง โดยโกรธแค้นที่ผู้ตายด่าทอและไล่ออกจากงาน ในวันเกิดเหตุ นายทีจึงได้เตรียมอาวุธมีดแล้วปีนบ้านผู้ตายเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สิน และผู้ตายได้กลับมาพบตนขณะรื้อค้นทรัพย์สินจึงได้ลงมือใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้หลบหนีเพื่อจะเดินทางกลับบ้านที่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่งถูกจับกุม
หลังจากแถลงข่าวเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายทีไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเกิดเหตุหมู่บ้านพระปิ่น 7 เฟส 4 บ้านเลขที่ 72/49 เฟส 4 ซอยที่ 3 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีประชาชนมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพกันเป็นจำนวนมากโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนกว่า 20 คนคอยคุมเพื่อไม่ให้เข้ามาในบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งให้ผู้ต้องหาจุดธูปขอขมาผู้ตาย ส่วนในบ้าน น.ส.ชมภัคมนธฑ์ แสนประสิทธิ์ 23 ปี ลูกสาวผู้ตาย พร้อมด้วยญาตินั่งไหว้บอกแม่ที่เสียชีวิตอยู่ เมื่อเห็นหน้าผู้ต้องหาก็ได้ตะโกนด่าด้วยความโกรธแค้น พร้อมทั้งร้องไห้และถามผู้ต้องหาว่าฆ่าแม่ทำไม แม่ได้เลี้ยงดูผู้ต้องหามาแต่ไม่ได้สำนึกในบุญคุณเลย เมื่อทำแผนเสร็จทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายทีขึ้นรถตู้กลับมาที่ สภ.คลองหลวงทันที เพราะเกรงว่าจะถูกประชาชนรุมประชาทัณฑ์ และจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลจังหวัดธัญบุรีในวันพรุ่งนี้