xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เคลียร์ม็อบข้างวัดเบญฯ ตั้งเวทีเรียกร้องประชาธิปไตย คุม “น.อ.คัมภีร์” แกนนำปรับทัศนคติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตำรวจเข้าสลายชุมนุมกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ขอตั้งสภาปวงชนชาวไทย บริเวณด้านข้างวัดเบญฯ เหตุลักลอบตั้งเวทีเพื่อชุมนุม ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ห้ามชุมนุมหรือมั่วสุมทางการเมืองเกิน 5 คน พร้อมคุมตัว “น.อ.คัมภีร์” แกนนำปรับทัศนคติที่ มทบ.11

วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บริเวณถนนนครปฐม ด้านข้างวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร แขวงและเขตดุสิต กทม. นาวาอากาศเอก (พิเศษ) คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ เลขาธิการพรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทยและแกนนำ พร้อมชาวบ้านจากภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กว่า 50 คน เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและขอความเป็นธรรม อยากให้มีการตั้งสภาปวงชนชาวไทย ที่โดยนำประชาชน

ต่อมา พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผบก.น.1 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน ผกก.สน.ดุสิต ได้เดินทางมาควบคุมการชุมนุม พร้อมนำกำลังกองร้อย อคฝ.จำนวน 1 กองร้อย เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่เทศกิจมาดูแลความเรียบร้อย

นาวาอากาศเอก (พิเศษ) คัมภีร์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้นำประชาชนที่ต้องมีสิทธิและเสรีภาพจากทั่วทุกประเทศมาชุมนุมเพื่อขอให้ได้รับความเป็นธรรม ตั้งแต่เป็นประชาชนยุค 2475 ไม่เคยได้รับประชาธิปไตยที่แท้จริงเลย ตนเชื่อคำที่ว่า “ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชาเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะต้องได้รับความเป็นธรรม อยากให้มีการตั้งสภาปวงชนชาวไทย โดยนำประชาชนจากทุกภาคส่วนมามีส่วนร่วม อยากให้มีนโยบายจากข้างล่างสู่ข้างบน ไม่ใช่ข้างบนลงมาข้างล่าง

พล.ต.ต.วัชรพงศ์เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบการตั้งเวทีเพื่อการชุมนุมตั้งแต่เมื่อช่วงของวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีการขออนุญาตชุมนุม และพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นผิวการจราจร (ถนนครปฐม) จึงถือว่ากีดขวางการจราจร ในเบื้องต้นก็จะทำการเจรจากับทางกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวก่อน หากยังฝ่าฝืนก็จะทำการรื้อถอนเวทีต่อไป

ต่อมาเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่เริ่มประชาสัมพันธ์ผ่านเครื่องขยายเสียงให้กลุ่มชาวบ้านเลิกการชุมชุมและแยกย้ายกลับบ้าน เนื่องจากผิดกฎหมายที่ห้ามมีการชุมนุมเกิน 5 คนขึ้นไป และขอให้ทุกคนอยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยทางเจ้าหน้าที่ให้เวลา 5 นาที ถ้าไม่เลิกการชุมนุมจะดำเนินการจับกุม ภายหลังที่มีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงครบ 3 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังควบคุมตัวนาวาอากาศเอก (พิเศษ) คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ แกนนำขึ้นรถตู้ พร้อมทั้งได้จัดรถตู้มารอรับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต้องการกลับภูมิลำเนาด้วย และให้ทำการรื้อถอนเวทีออกโดยทันที การดำเนินการของทางเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ใช้เวลาในการเจรจาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวว่า เบื้องต้นจะต้องดำเนินคดีต่อแกนนำตามคำสั่ง คสช.ที่ 3 ข้อ 12 ห้ามการชุมนุมหรือมั่วสุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป มาตรา 8 การชุมนุมต้องไม่กีดขวางทางเข้าออก หรือขัดขวางการปฏิบัติงาน ประกอบมาตรา 27 หากฝ่าฝืนชุมนุมโดยมิชอบ หรือขัดคำสั่งห้ามชุมนุมของเจ้าพนักงาน มีโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนเจ้าของเต้นและเวที ต้องดำเนินคดีตามมาตรา 385 ผู้ใดโดยไม่ได้รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมายกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของ หรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด ถ้าการกระทำนั้นเป็นการกระทำโดยไม่จำเป็น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท และความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ปรับ 500 บาท

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวแกนนำเข้าไปปรับทัศนคติที่ มทบ.11 ก่อนจะนำตัวมาส่งที่ สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เดินทางมาที่ สน.ดุสิต เพื่อติดตามเกี่ยวกับกรณีการชุมนุมดังกล่าว ก่อนร่วมสอบปากคำนายสุนทร บัวกลิ่น อายุ 65 ปี ชาว จ.นนทบุรี เจ้าของเวทีที่นำมาชุนนุมที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายสุนทรให้การว่า ได้รับการว่าจ้างให้มากางเต็นท์และเวทีบริเวณนี้ โดยบอกว่าเป็นงานวัดจึงรับงานซึ่งได้ตกลงกันจำนวน 10 วัน และได้รับเงินมัดจำมาแล้ว 20,000 บาท เมื่อมาถึงเมื่อเวลา 07.00 น.ก็สั่งให้ลูกน้องกางเต็นท์และเวทีทันทีโดยไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรเนื่องจากขณะที่กำลังจะกางเต็นท์ได้มีพระสงฆ์ออกมาดูการทำงาน ประกอบกับจุดที่ตั้งอยู่ข้างวัด แต่เมื่อกางป้ายผ้าออกตนรู้สึกตกใจ และรู้ทันทีว่าไม่ใช่งานวัดอย่างที่ตกลงอย่างแน่นอน หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาควบคุมพื้นที่ทั้งที่ยังกางเต็นท์ยังไม่เสร็จ

เบื้องต้นทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อนายสุนทร ในฐานความผิดตั้งวางสิ่งของ (เต็นท์ และเก้าอี้) กีดขวางการจราจรโดยไม่รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 114, 148 พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย พ.ศ. 2535 มาตรา 19, 57 และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 38 ลงโทษปรับจำนวน 10,000 บาท และความผิดฐานชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 10 และ 28 เปรียบเทียบปรับจำนวน 10,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวเปี๊ยก บ้านโป่ง ผู้ว่าจ้างให้มาจัดตั้งเวทีดังกล่าวเข้าให้ปากคำ ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหาชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะพ.ศ. 2558 มาตรา 10 และ 28 เปรียบเทียบปรับจำนวน 10,000 บาท









กำลังโหลดความคิดเห็น