คนร้ายสวมสูทขับรถติดสติกเกอร์ “นักข่าวภูมิภาคไทย” เข้าพักรีสอร์ตย่านสามโคก ปทุมธานี ก่อนขับรถหายตัวไปทั้งคืน อีกวันพนักงานเข้าเก็บค่าที่พักถึงได้รู้ว่าถูกขโมยทีวีสีจอแบน 40 นิ้วพร้อมรีโมตไปด้วย ซ้ำกล้องวงจรปิดเพิ่งติดตั้งยังไม่ได้เซตระบบ จึงไม่สามารถจับภาพไว้ได้
วันที่ 16 เม.ย. 60 เมื่อเวลา 13.30 น. ร.ต.อ.วรภัค ศุภสวัสดิ์ สารวัตรสอบสวน สภ.สามโคก ได้รับแจ้งจาก นายสุขสันต์ ฉลวย อายุ 55 ปี เจ้าของโรงแรมคลองสระรีสอร์ท เลขที่ 114 หมู่ที่ 2 ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ว่ามีลูกค้าเป็นชาย 1 คนทำทีเป็นนักข่าวได้เข้ามาพักก่อนที่จะก่อเหตุขโมยทรัพย์สินภายในห้องพักรีสอร์ตไป ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
พบห้องพักของโรงแรมคลองสระรีสอร์ท ห้องเอ สีชมพู โดยมีนายสุขสันต์ ฉลวย เจ้าของรีสอร์ต และนายนรินทร์ โคตรคำ อายุ 18 ปี พนักงานรีสอร์ต ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ จากนั้นได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูร่องรอยที่คนร้ายที่เข้ามาพัก พบร่องรอยไขควงขันนอตที่ยึดกับโทรทัศน์สีจอแบนยี่ห้อซัมซุง 40 นิ้ว ออก พร้อมรีโมตทีวีที่คนร้ายได้ขโมยไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายนรินทร์ โคตรคำ พนักงานรีสอร์ตกล่าวว่า เมื่อคืนเวลา 20.30 น.วันที่ 15 เม.ย.มีชาย 1 คนขับรถยี่ห้อโตโยต้า สีดำ จำรุ่นไม่ได้คล้ายรถแวน ที่รถติดสติกเกอร์สีทองระบุว่านักข่าวภูมิภาคไทย ชายคนดังกล่าวอายุประมาณ 35-40 ปี สวมสูทสีดำทับเสื้อขาว มาเข้าพักพร้อมสั่งข้าวผัดกะเพราหมู 1 จาน เมื่อเวลา 05.00 น.ของวันที่ 16 เม.ย.ได้ขับรถออกไป ขณะนั้นคิดว่าชายคนดังกล่าวอาจจะออกไปทำธุระคาดว่าจะเข้ามาอีก ตนเองไปดูที่หน้าห้องเห็นว่าเครื่องปรับอากาศยังทำงานอยู่จึงไม่ได้สงสัย จนกระทั่งเวลา 12.00 น.ของวันนี้จะไปเก็บค่าห้อง 750 บาท และค่าข้าว 60 บาท แต่กลับพบว่าโทรทัศน์สีจอแบน ของห้องพักได้สูญหายไปแล้วจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภายในห้องพักที่คนร้ายเข้ามาพัก พบว่าโทรทัศน์สีจอแบนยี่ห้อซัมซุง 40 นิ้ว มูลค่า 15,000 บาท สูญหายไป และไม่มีทรัพย์สินเสียหาย เจ้าหน้าที่จะประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการมาเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแต่ไม่มีภาพในระบบเนื่องจากทางรีสอร์ตเพิ่งจะติดตั้งกล้องวงจรปิด และยังไม่ได้เซตระบบบันทึกภาพเอาไว้ จึงไม่สามารถจับภาพคนร้ายที่เข้ามาทำการก่อเหตุได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป